นายสันติ นำสินวิเชษฐชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร จัดขึ้นโดยการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. โดยได้ริเริ่มดำเนินโครงการมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 นับถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานของพนักงานภายในองค์กร โดยได้กำหนดกลุ่มอาคารเป้าหมายที่อยู่ในเขตพื้นที่การให้บริการของ กฟน. คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ทั้งนี้ จากผลความสำเร็จตลอดระยะเวลาของการจัดทำโครงการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันมีอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน" แล้วทั้งสิ้น 199 แห่ง โดยมีอาคารที่สมัครเข้าร่วมโครงการรวม 363 แห่ง ซึ่งล้วนเป็นอาคารขนาดใหญ่ ใช้พลังงานสูงและเป็นอาคารที่มีชื่อเสียงประชาชนเข้าใช้บริการในอาคารจำนวนมาก โดยจัดประกวดใน 8 กลุ่มอาคาร ประกอบด้วย อาคารประเภทโรงพยาบาล ไฮเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงเรียน และร้านสะดวกซื้อ โดยผลรวม 5 ปี สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้กว่า 39.46 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้สูงถึง 154.79 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่า 22,973 ตัน
สำหรับโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารครั้งนี้เป็นการมอบรางวัลตราสัญลักษณ์ "กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน" ปีที่ 5 หรือ MEA Energy Saving Building 2017 ซึ่งได้พิจารณาจัดประกวดอาคารรวม 4 ประเภท คือ อาคารโรงพยาบาล, อาคารโรงแรม, อาคารสำนักงาน และอาคารศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ จากความตั้งใจทุ่มเทในการดำเนินงานของทุกอาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ ตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ทำให้สามารถลดพลังงานไฟฟ้าลงได้กว่า 18.96 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้กว่า 70 ล้านบาทต่อปี และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 11,040 ตันต่อปี โดยมีอาคารปีที่ 5 ผ่านเกณฑ์การใช้พลังงาน MEA Index ตามที่ กฟน. กำหนด และได้รับตราสัญลักษณ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน" ระดับที่ 1 แล้ว จำนวน 23 แห่ง ประกอบด้วยอาคารโรงพยาบาล จำนวน 7 แห่ง อาคารโรงแรมจำนวน 4 แห่ง อาคารสำนักงาน จำนวน 6 แห่ง และอาคารศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า จำนวน 6 แห่ง
ทั้งนี้ โครงการได้ดำเนินการแข่งขันในระดับที่ 2 ซึ่งต้องเป็นอาคารที่ผ่านเกณฑ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน" ในระดับที่ 1 มาก่อนเท่านั้น เพื่อพิจารณามอบตราสัญลักษณ์ "กฟน. อาคารประหยัดพลังงานดีเด่น" และตัดสินผลรางวัล "อาคารประหยัดพลังงานดีเลิศ" จำนวน 4 รางวัล และ "รางวัลอาคารปรับปรุงด้านพลังงานดีเด่น" จำนวน 1 รางวัล และ"รางวัลนวัตกรรมพลังงานดีเด่น" จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าเงินรางวัล ทั้งสิ้น 5 ล้านบาท โดยแต่ละอาคารต้องดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานมาอย่างต่อเนื่องจนประผลสำเร็จ ซึ่งในการแข่งขันระดับที่ 2 ของการประกวดอาคารปีที่ 5 มีอาคารได้รับการพิจารณาตัดสินผลรางวัล จำนวน 16 อาคารดังนี้
1. รางวัล "อาคารประหยัดพลังงานดีเลิศ" พร้อมได้รับเงินรางวัลอาคารละ 1 ล้านบาท จำนวน 4 รางวัล ในแต่ละประเภทอาคาร มีดังนี้
2. รางวัล "อาคารนวัตกรรมพลังงานดีเด่น" พร้อมได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ "สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี"
3. รางวัล "อาคารปรับปรุงด้านพลังงานดีเด่น" พร้อมได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ "โรงพยาบาลราชวิถี"
4. รางวัล "กฟน.อาคารประหยัดพลังงานดีเด่น" จำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย
อาคารประเภทโรงพยาบาล จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
2. โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล (หนองแขม)
3. โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด (มหาชน)
อาคารประเภทโรงแรม จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ
2. โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
อาคารประเภทสำนักงาน จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. อาคารธารา สาทร
2. อาคารปตท. สำนักงานพระโขนง
3.อาคารศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์
อาคารประเภทศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ
2. ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค
และนอกเหนือจากการประกาศผลรางวัลในปีที่ 5 นี้แล้ว นับเป็นที่น่ายินดีที่มีอาคารให้ความสนใจขอรับการประเมินดัชนีการใช้พลังงาน MEA Index โดยไม่ร่วมแข่งขัน และได้รับการพิจารณาให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่ กฟน.กำหนด ในประเภทสำนักงานจำนวน 2 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ จำนวน 26 สาขา สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ http://www.meaenergysavingbuilding.net
การแข่งขัน กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน หรือ "MEA Energy Saving Building 2017" นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างแรงจูงใจให้กับหน่วยงาน และภาคธุรกิจหันมาอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นเจตจำนงของการไฟฟ้านครหลวง ที่ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนให้อาคารประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งผลประหยัดที่เกิดขึ้นส่งผลดีกับอาคารที่เข้าแข่งขันทุกอาคาร ในที่สุดถือเป็นประโยชน์กับประเทศชาติโดยรวม ซึ่ง กฟน. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึก และเป็นต้นแบบให้เกิดการขยายผลการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit