พม. แถลงข่าวการจัดงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2561 ชูแนวคิด “พลังครอบครัวไทยใจอาสา”

23 Mar 2018
วันนี้ (23 มีนาคม 2561) เวลา 10.00 น. พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มอบหมายให้นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว สร้างแนวคิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนในครอบครัว และส่งต่อการช่วยเหลือไปยังครอบครัวอื่น ๆ ในชุมชน เพื่อให้ครอบครัวและชุมชนเข้มแข็ง ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พม. แถลงข่าวการจัดงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2561 ชูแนวคิด “พลังครอบครัวไทยใจอาสา”

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 กำหนดให้วันที่ 14 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันครอบครัว"กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะที่มีภารกิจการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัว ได้กำหนดจัดงานวันแห่งครอบครัวขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของครอบครัว รวมทั้งเป็นสร้างแนวคิดให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน สังคมและประเทศชาติ และรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น

นายเลิศปัญญา กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดงานวันแห่งครอบครัวประจำปี 2561 กำหนดจัดขึ้น ในวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561 โดยใช้แนวคิด พลังครอบครัวไทยใจอาสา ณ ห้องมิราเคิลแกรนด์ บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัวสร้างแนวคิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนในครอบครัว และส่งต่อการช่วยเหลือไปยังครอบครัวอื่น ๆ ในชุมชน เพื่อให้ครอบครัวและชุมชนเข้มแข็ง โดยมีกิจกรรมสำคัญคือ การมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ครอบครัว บุคคล ที่มีผลงานดีเด่นด้านการพัฒนาสถาบันครอบครัว รวมจำนวนทั้งสิ้น 91 รางวัล ได้แก่ครอบครัวร่มเย็น จากส่วนภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร จำนวน 81 รางวัล ครอบครัวร่มเย็น (ด้านผู้มีชื่อเสียง : ประเภทครอบครัวศิลปิน/ครอบครัวนักธุรกิจ/ครอบครัวนักกีฬา/ครอบครัวพิเศษ/สื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัว) จำนวน 5 รางวัล และรางวัลบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว จำนวน 5 รางวัล โดยรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ พร้อมรับมอบข้อเสนอจากสมัชชาครอบครัวระดับชาติประจำปี 2561 และการนำเสนอผลงานวิจัย เรื่อง "ครอบครัวไทยจะอยู่ดีมีสุขได้อย่างไรในยุคไทยแลนด์ 4.0" โดยศาสตราจารย์ รุจา ภู่ไพบูลย์และคณะ จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ภายในงานจะมีนิทรรศการแสดงแนวคิดเกี่ยวกับสืบสานแนวพระราชดำริ "เราทำดี ด้วยหัวใจ" นิทรรศการครอบครัวร่มเย็น บุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว นิทรรศการภาพถ่ายครอบครัวไทยใจอาสา บูทแสดงผลงานของเด็กที่ประสบความสำเร็จของศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว กิจกรรม Learning Zone เสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และ บูทเติมเต็มความรู้ งานวิจัย และข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น

พม. ขอเชิญชวนทุก ๆ ท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นพลังสร้างครอบครัวไทย และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนตลอดไป นางไพรวรรณ กล่าวในตอนท้าย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสวนาพูดคุยกับครอบครัวตัวอย่างที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลครอบครัวร่มเย็นในปี 2561

ทางด้านคุณพ่อต้น-นฤบดินทร์ เผยว่า เราเป็นครอบครัวที่อยู่ชนบท และเป็นครอบครัวนักกีฬา ผมปลูกฝังการเล่นกีฬากับลูกทั้งสองตั้งแต่เด็ก พาไปสนามฟุตบอลด้วย ทางด้านต้น นฤบดินทร์ เสริมต่อว่า ตัวผมเป็นนักกีฬาที่คุณพ่อแม่สนับสนุนและส่งเสริมด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก พอเข้ามาเป็นนักกีฬาทีมชาติทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ต้องไปแข่งขันและฝึกซ้อม แต่ผมก็จะโทรหาและส่งข้อความถึงคุณพ่อคุณแม่ตลอด นอกจากนี้ผมยังทำกิจกรรม

ทางด้านจิตอาสาและการทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยแบ่งปันเวลาจาการแข่งขันและฝึกซ้อมมาสอนน้องๆ ฝึกฟุตบอล ตอนผมเป็นเด็กก็อยากจะฝึกกับฟุตบอลเก่งๆ ซึ่งผมก็อยากจะทำสิ่งนี้ให้กับเด็กๆ เยาวชนเช่นเดียวกัน ส่วนกิจกรรมจิตอาสาที่ทำร่วมกับครอบครัวเราจะมีนำของไปบริจาคกับมูลนิธิ และหน่วยงานต่างๆ อีกด้วย

ทางด้านครอบครัวคุณมัฏศ์-ปรมัฎศ์ นักแสดงที่เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ เผยว่า คุณพ่อคุณแม่ผมเลี้ยงดูและปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก

ส่วนใหญ่ผมทำงานคิวแน่นๆ แต่ผมจะมีการบริหารจัดการเวลา ใช้เทคโนฯ ไลน์ vdo call คุยกันจะได้เห็นหน้ากันตลอดถึงแม้จะอยู่คนละที่

สำหรับกิจกรรมทางด้านจิตอาสาและการทำประโยชน์เพื่อสังคม ในเรื่องจิตอาสาผมมองว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำ คือ การปลูกจิตสำนึกเริ่มต้นจากครอบครัวตัวเองก่อน โดยเริ่มจากตัวเราก่อนและทำประโยชน์ให้กับชุมชน สังคม ถ้าผมมีเวลาจากการทำงานจะใช้เวลาไปทำกิจกรรมร่วมกับจิตอาสาที่ต่างๆ เช่น การจัดกิจกรรมหารายได้ค่าอาหารให้สุนัข ควบคุมสุนัขแมวจรจัดโดยจัดกิจกรรมทำหมันที่เชียงใหม่

HTML::image( HTML::image( HTML::image(