เป็นกระแสอยู่ยาวนานกับความนิยมไทย "เส้นหมี่อบแห้งไวไว" ผลิตและจำหน่ายโดย บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด เนรมิตการเดินทางสุดพิเศษ พาออเจ้าทั้งหลายข้ามเวลาสู่ยุคเก่าสัมผัสเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นเช้าวันแรกพร้อมอากาศเป็นใจ เหล่าออเจ้าทุกท่านต่างพกพาความสดใสและร้อยยิ้มอันสดชื่น พร้อมใจแต่งกายด้วยชุดไทยอันวิจิตรตระการตา เป็นสัญญาณพร้อมที่จะเดินทางย้อนเวลาสู่สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแห่งการรำลึก โดยจุดแรกเราเริ่มที่เมืองอโยธยา (จ.พระนครศรีอยุธยา) เพื่อชมความงดงามของ วัดไชยวัฒนาราม ที่สร้างขึ้นกว่า 388 ปีก่อน โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์องค์ที่ 24 แห่งอาณาจักรอยุธยา กับการเข้าชมสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา อาทิ เช่น พระปรางค์ ศรีรัตนมหาธาตุ ต่อด้วย วัดพุทไธศวรรย์ พระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่ง ทั้งยังเป็นสถานที่ฝึกดาบและอาคมสมัยอยุธยา ที่สร้างมายาวนานกว่า 600 ปี พร้อมร่วมสักการะและสัมผัสความสวยงามของ "พระมหาธาตุ" ปรางค์ประธานสีขาวสะอาดตา มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปราสาทขอม และจุดสำคัญอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความสมบูรณ์สวยงามควรค่าแห่งการเข้าไปเที่ยวชมอย่างยิ่ง ปิดท้ายที่ วัดเชิงท่า ชมความสวยงามของ ปรางค์ห้ายอดสมัยอยุธยา ก่อนจะพาออเจ้าทั้งหลาย ไปลิ้มรสความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อดังเพิ่มพลังก่อนออกเดินทางสู่ จ.ลพบุรี หรือเมืองละโว้ ที่เคยรุ่งโรจน์สูงสุดในสมัยพระนารายณ์มหาราช เพื่อเข้าชม พระปรางค์สามยอด พร้อมสักการะและขอพร เจ้าพ่อพระกาฬที่ ศาลพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรีเพื่อความเป็นสิริมงคล นำพาความสุขใจสู่ทุกท่านที่ร่วมทริป จากนั้นจึงเดินทางเข้าที่พักแสนอบอุ่น ตกเย็นทีมงานพร้อมใจกันตอนรับทุกท่านด้วยดินเนอร์ปาร์ตี้และกิจกรรมสุดเซอร์ไพรซ์ กับกิจกรรมเวิร์คช้อปเมนู "หมี่คำ" โดย เชฟอุ้ม-จุฑามาศ แฉล้มนงนุช เชฟสาวคนสวยจาก "เส้นหมี่อบแห้งไวไว" ที่พกความเอาน่ารักและสูตรเด็ดมาชวนทุกท่านร่วมกันรังสรรค์เมนูพิเศษนี้ด้วยกัน ก่อนจะเริ่มรับประทานอาหารเย็นตบท้ายวันที่สุขก่อนพักกายพร้อมตะลุยเมืองละโว้ในอีกวันต่อไป
อรุณสวัสดิ์เริ่มต้นเช้าวันที่สอง ด้วยการเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ วงเวียนเทพสตรี ขอพรต่อผู้ครองอันเป็นที่เคารพแห่งละโว้ธานี จากนั้นมุ่งหน้าสู่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือที่ชาวเมืองลพบุรีเรียกกันติดปากว่า วังนารายณ์ พระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ออกว่าราชการและต้อนรับแขกเมือง และทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ในพระราชวังแห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2231 พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ เขตพระราชฐานชั้นนอก, ชั้นกลางและชั้นใน ภายสิ้นรัชกาลพระราชวังแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะซ่อมแซมพระราชวังแห่งนี้และโปรดให้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้จัดแสดงโบราณวัตถุ และภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่ภาคภูมิใจของชาวลพบุรี จากนั้นเดินทางต่อเนื่องมาที่ บ้านวิชาเยนทร์ หรือ บ้านหลวงรับราชทูต สร้างขึ้นเพื่อใช้ต้อนรับคณะทูตจากประเทศฝรั่งเศสชุดแรกที่เข้ามาในกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2228 และเป็นบ้านพักที่เมืองลพบุรีของ หลวงสุรสาคร หรือเจ้าพระยา วิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) สมุหนายกชาวกรีก คนโปรดของสมเด็จพระนารายณ์ พำนักอยู่ที่นี่เป็นคนสุดท้าย จึงเรียกกันว่า บ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ในเวลาต่อมา
การเดินทางย้อนกาลเวลามาถึงสถานที่ท้ายสุด เส้นหมี่อบแห้งไวไว เลือกพาทุกท่านสัญจรมาที่ วัดสันเปาโล สันนิษฐานว่าเป็นวัดในคริสต์ศาสนา สมเด็จพระนารายณ์ฯ ได้พระราชที่ดินให้แก่บาทหลวงชุดที่ 2 ที่เดินทางมาสู่กรุงสยามซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์จะมาประจำ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ทำพิธีทางศาสนา พร้อมกับใช้เป็นที่พักและที่สำคัญคือ มีหอดูดาวแปดเหลี่ยมซึ่งใช้เป็นหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ แห่งแรกในกรุงสยาม ส่วนคำว่า "สันเปาโล" นี้คงจะเพี้ยนมาจากคำว่า เซนต์ปอล หรือแซงต์เปาโล "Saint Paulo" ชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า ตึกสันเปาหล่อ จากหลักฐานเข้าใจว่าเป็นโบสถ์ฝรั่งแต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เมื่อมีการเปลี่ยนแผ่นดิน วัดสันเปาโลจึงถูกทิ้งร้าง ปัจจุบันเหลือเพียงซากของผนังหอดูดาวบางส่วน กับฐานของอาคารที่สันนิษฐานว่าเป็นที่พักและโบสถ์ฝรั่งนั่นเอง
ทริปนี้สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมความสุขและมิตรภาพอันแสนวิเศษที่บังเกิดขึ้นในใจทุกท่าน ถือเป็นของขวัญกลับบ้าน รอยยิ้มของทุกท่านตลอดการเดินทางร่วมกัน ได้สร้างความอิ่มใจแก่ทีมงานในทุกๆ ครั้งที่นึกถึงแม้กระทั่งตอนนี้ก็ตาม
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit