"สำหรับประเด็นหารือในวันนี้ สมาคมแช่เยือกแข็งไทย ได้เข้าชี้แจงความก้าวหน้าโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งฯ ขณะนี้ รับซื้อได้เพียง 195 ตัน จากเป้าหมาย 10,000 ตัน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยเป็นหลัก ซึ่งมีต้นทุนการเลี้ยงสูง และขั้นตอนดำเนินการจับคู่ธุรกิจซับซ้อน จึงทำให้ใช้เวลานานกว่ากระบวนการรับซื้อจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอความร่วมมือสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ขยายเวลารับซื้อกุ้งให้ครบ 10,000 ตันต่อไป ในขณะเดียวกัน สมาพันธ์เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งไทย ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1) ขอให้ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ในวันที่ 7 มิถุนายน นี้ 2) ขอให้ปรับอัตราค่าไฟฟ้าเป็นอัตราไฟเกษตร เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยได้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาแล้ว และ 3) การขอเลี้ยงกุ้งในเขตชายฝั่ง และการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงรับไปพิจารณาต่อไป"นายกฤษฎา กล่าว