กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะให้ความสนใจการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และคู่ค้าหลัก หลังสหรัฐฯ สั่งเก็บภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมและเหล็กกล้าจากแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงยืดเยื้อ นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยอัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี ที่ 3.8% รวมถึงค่าจ้างซึ่งเติบโตได้ดี บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 มิถุนายนและมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้น ในภาวะดังกล่าว กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี คาดว่ากระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจะยังไม่กลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทยอย่างมีนัยสำคัญในระยะนี้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.80% เราคาดว่าทิศทางขาขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจะดำเนินต่อไป ท่ามกลางการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในที่ฟื้นตัว รวมถึงฐานปี 2560 ที่ใช้เปรียบเทียบค่อนข้างต่ำ ในระยะข้างหน้า เราประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1.75% ก่อนสิ้นปีนี้ หากเศรษฐกิจไทยสามารถรักษาแรงส่งเชิงบวกของการเติบโตและมีสัญญาณกระจายตัวมากขึ้น