นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี (BGC) เปิดเผยว่าสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มในปัจจุบันเกือบ ทุกชนิดจำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยรักษาคุณภาพ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เพิ่มภาพลักษณ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังช่วยให้เกิด ผลทางธุรกิจด้านการตลาดจากบรรจุภัณฑ์ได้อีกช่องทางหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนำมาซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรมของบรรจุภัณฑ์แก้ว
'บีจีซี' ในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แก้วครบวงจร มีกำลังการผลิตเป็นอันดับหนึ่งของ ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี จึงพร้อมเปิดตัวด้านการตลาดเป็นปีที่ 2 ใน งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ แห่งภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 26 หรือ Propak Asia 2018 ระหว่าง วันที่ 13-16 มิถุนายน ณ บูธหมายเลข EC05 พาวิเลี่ยนฮอลล์ 106 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดย บีจีซี นำเสนอบรรจุภัณฑ์แก้วที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ด้วยมาตรฐานระดับสากล พร้อมเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เตรียมขยายตลาดในแถบอาเซียน สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดบรรจุภัณฑ์ที่จะเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะเป็นภูมิภาคที่มีบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นจำนวนมาก คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในอนาคตตามภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค
และเพื่อให้สอดรับแนวโน้มการเติบโตของบรรจุภัณฑ์ 'บีจีซี' เตรียมเพิ่มกำลังการผลิต ในโรงงานจังหวัดราชบุรีช่วงเดือนสิงหาคมนี้ อีก 1 เตาหลอม กำลังการผลิต 400 ตันต่อวัน โดยผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วแบบใสและสี สำหรับกลุ่มเครื่องดื่มทุกประเภท บรรจุภัณฑ์แบบใสและสี สำหรับกลุ่มอาหาร และบรรจุภัณฑ์แบบใสและสี เพื่อการส่งออก ทั้งยังสามารถรองรับการขยายตลาดไปยังลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ รวมบีจีซีมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว 5 แห่ง กำลังการผลิต 3,495 ตันต่อวัน เตาหลอมทั้งหมด 11 เตา
นอกจากนี้ 'บีจีซี' ยังได้มุ่งเน้นด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบรรจุภัณฑ์แก้วนับเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในตัว เพราะหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ บีจีซี จึงคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดการดำเนินงานภายใต้ 'วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม' นับเป็นความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วม เพื่อยกระดับเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว
ทั้งนี้ในปัจจุบันอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยประกอบด้วย 4 ประเภทใหญ่ คือ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษ มีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 40 อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก มีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 25 อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์โลหะมีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 20 และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้ว มีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 15 โดยบรรจุภัณฑ์แก้วนิยมใช้กันมานานและแพร่หลาย เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความใสปลอดภัยต่อสินค้าที่บรรจุ โดยเฉพาะสินค้าอาหาร องกันการซึมผ่านของก๊าซและไอน้ำได้ดี มีความคงรูปและทนความร้อน ได้สูงสวยงาม สามารถใช้ซ้ำหรือหมุนเวียนได้ รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ประเภทแก้วกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการผลิตส่วนใหญ่เป็นขวดแก้ว
โดยปี 2560 ที่ผ่านมาบรรจุภัณฑ์แก้ว (ขวดแก้ว) มีปริมาณการผลิตขยายตัวที่ 826,014 ตัน ดันมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.76 (ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ธ.ค. 2560) นับเป็นการเติบโตที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมดังกล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit