ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวถือเป็นความตั้งใจของหอการค้าไทยที่ต้องการยกระดับมาตรฐานงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาค เพื่อกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือ SME ที่มีศักยภาพในการขยายตลาด เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังจะเป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทย โดยได้รวบรวมความเป็นที่สุดจากบริษัทของคณะกรรมการ สมาชิก ผู้ประกอบการต่าง ๆ และเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ในการประชาสัมพันธ์สินค้า การท่องเที่ยว และบริการ เป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางการตลาด ตลอดจนสร้างความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่ายให้เกิดความเข้มแข็งทั้งในระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคชุมชน ในรูปแบบของประชารัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนที่สำคัญ ในระดับภูมิภาค (เมียนมา, ลาว, จีนตอนใต้)
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภาคเหนือ ครึ่งแรกปี 2561 ขยายตัวอยู่ที่ 2.8 % ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี อยู่ที่ 4.2% ซึ่งหอการค้าไทย ได้กำหนดจัดงานหอการค้าแฟร์ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 7 ตุลาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดว่างานนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี สอดคล้องกับการดำเนินงานของหอการค้าไทยในโครงการสำคัญ อาทิ โครงการไทยเท่ และคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ MICE (D3) ที่มุ่งเน้นในการกระตุ้นการใช้จ่ายในภูมิภาค กระจายรายได้ สร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่นซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น รวมทั้งการขยายตัวจากการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศไทยในภาพรวมต่อไป
นายกฤษณะ วจีไกรลาศ ประธานคณะกรรมการแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ หอการค้าไทย กล่าวว่า งานหอการค้าแฟร์ ได้มีการผนึกกำลังจากผู้ประกอบการสินค้าชั้นนำของไทยทั้งส่วนกลาง ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความทันสมัยและนวัตกรรมที่โดดเด่น ในส่วนภูมิภาคนำโดยหอการค้าจังหวัด และเครือข่ายพันธมิตร มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงานฯ ภายใต้ Concept "งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อผู้บริโภค (The Regional Trade Consumer & Lifestyle Exhibition)" อีกทั้ง ได้มีการประชาสัมพันธ์งานครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV และกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ ผ่านเครือข่ายพันธฺมิตรของหอการค้าไทยในประเทศต่าง ๆ โดยมีบริษัทชั้นนำที่เข้าร่วมงาน อาทิ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ความคาดหวังการจัดงานหอการค้าแฟร์กระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ คาดหวังว่าจะจุดประกาย และสร้างความตระหนักให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสินค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก เกิดการเชื่อมโยงร่วมคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0 นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ Media Partner จัดคอนเสิร์ตชั้นนำสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้เข้าชมงานด้วย
อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย คาดว่าการจัดงานดังกล่าวจะมีรายได้หมุนเวียน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง และจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศต่อไป
นางสาวธนวรรณ เถาว์มูล ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดคอนเสิร์ตทีวี 3 สัญจร ให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานหอการค้าแฟร์ ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกับหอการค้าไทยเป็นครั้งแรก ในส่วนของการสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ตทีวี 3 สัญจร จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 กันยายน 2561 นั้น จะมีดารานักแสดง และศิลปิน ที่กำลังมีผลงานกับทางช่อง 3 และเป็นที่นิยมมาร่วมสร้างความสุขและความสนุกสนานให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมสนุกเล่นเกม และมีของที่ระลึกมากมายจากทางช่อง 3 มามอบให้ และงานนี้ฟรีตลอดงาน โดยคาดหวังว่าคอนเสิร์ตทีวี 3 สัญจร จะร่วมสร้างสีสันและมอบความสุขให้กับผู้ชมที่ร่วมในงานได้เป็นอย่างดี
นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด กล่าวว่า เพื่อให้สอดรับกับวัตถุประสงค์การจัดงาน ในการเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนในระดับภูมิภาค การจัดงานหอการค้าแฟร์ จึงจัดขึ้นโดยใช้มาตรฐานเดียวกันกับงาน THAIFEX-World of Food Asia ซึ่งถือเป็นมาตรฐานการจัดงานในระดับโลก ซึ่งจะเป็นการผนึกกำลังของผู้ประกอบการสินค้าชั้นนำของไทยจากส่วนกลาง และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่น จากส่วนภูมิภาครวมเข้าด้วยกันบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร โดยได้จัดแบ่งกลุ่มของผู้ประกอบการ ออกเป็นโซนต่าง ๆ ทั้งบริเวณภายนอกและภายในอาคารแสดงสินค้า อาทิเช่น กลุ่มผู้ประกอบการโซนอาหาร, โซนผลไม้, สินค้าเกษตร, อสังหาริมทรัพย์, ธนาคารและการเงิน, โซนความงาม, โซนมอเตอร์โชว์ เป็นต้น