3 มุมต่าง จาก 3 SME ที่น่าจับตามอง

11 Jun 2018
1.) Okusno คางกุ้งเจ้าแรกของไทย กับจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่ Passion
3 มุมต่าง จาก 3 SME ที่น่าจับตามอง

ใครจะไปรู้ว่าจากการมองหัวกุ้งที่ถูกแกะทิ้งบนจาน จะนำมาสู่ธุรกิจขนม 'คางกุ้ง' เจ้าแรกของไทย ที่ทำยอดขายได้มากถึง 8 หลักต่อเดือน

แพร พิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ เจ้าของ Okusno ในวัย 27 ปี เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของขนมคางกุ้ง Okusno ว่าเกิดมาจากการมองเห็นโอกาสจากส่วนหัวกุ้งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงร่วมกับน้องชายพัฒนาสินค้ามาเป็น Okusno ในทุกวันนี้ โดยได้ทำการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 363 กระทะกว่าจะเจอสูตรที่ใช่

ในช่วงแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ คุณแพรต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการหา Supplier ที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่มีใครเคยรู้จักและคัดแยกส่วนคางกุ้งมาก่อน แต่เมื่อ Okusno ออกจำหน่ายจนเป็นที่รู้จักและมีความน่าเชื่อถือในตลาดแล้ว Supplier ก็เป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาให้เลือกเอง

และถึงแม้ว่าธุรกิจไม่ได้เกิดมาจาก Passion หรือความชอบเหมือนกับธุรกิจอื่นๆส่วนมากในปัจจุบัน แต่สิ่งที่คุณแพรยึดมั่นมาตลอดคือความเชื่อมั่นต่อตัวสินค้าว่าจะต้องไปต่อได้ เพราะขนมคางกุ้งมีความแปลกใหม่ในตัวเอง เป็นขนมที่อร่อย ทานได้เรื่อยๆ และมีประโยชน์จากแคลเซียมสูง

"ถ้าพูดถึงธุรกิจสมัยนี้คือเริ่มธุรกิจ มา 10 ธุรกิจ อยู่รอดยังไม่ถึง 3 ธุรกิจเลย แต่ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดคือต้องเป็นคนชอบความเสี่ยง อยากให้ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่าชอบความเสี่ยงมั้ย เพราะเวลาเราจะก้าวไปข้างหน้า มันต้องมีการตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา 7 วันโตได้ อีก 7 วันก็ล้มได้เหมือนกัน"

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://okusnofood.com/

หรือ Business Page ของ Okusno บนแอปพลิเคชัน MatchLink > Okusno Food Co., Ltd.

2.) WC+ นวัตกรรมเพื่อการแก้ปัญหาที่คนมองข้าม

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยประสบกับปัญหา 'อยากเข้าห้องน้ำ' ขณะเดินทางแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทน เนื่องจากสภาพการจราจรติดขัด หรือไม่อาจทำใจใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ไม่สะอาดมากพอ

คุณมิ้นท์ สุธินี กิตติภัทรากุล CEO นวัตกรรมห้องน้ำพกพา WC Plus Thailand เล่าว่าแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจคือ 'การแก้ปัญหาที่คนไม่เคยแก้มาก่อน' อย่างเรื่องการเข้าห้องน้ำของคนเดินทาง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองรถติด หลายคนอยากจะเข้าห้องน้ำก็ไม่สะดวก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้

ในการทำธุรกิจ คุณมิ้นท์บอกว่าเราควรจะคิดก่อนว่าคนใช้อยากได้ผลิตภัณฑ์แบบไหน เพราะฉะนั้น WC+ จึงเป็นผลิตภัณฑ์การแก้ปัญหาแบบคิดรอบด้านมาให้แล้ว ทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องดีไซน์ ต้องสวยงามน่าใช้แบบที่ลูกค้าไม่อายที่จะหยิบใช้ และการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน ใช้แล้วต้องไม่มีปัญหา เพราะหากมีปัญหาคนจะไม่กลับมาซื้ออีก รวมถึงวัสดุที่ใช้ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขอนามัยเป็นหลัก

ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์เป็นนวัตกรรม จึงมีความน่าสนใจในตัวมันเอง เมื่อลูกค้าได้ทดลองใช้จึงเกิดการบอกต่อ และสื่อต่างๆ ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

จากการประสบความสำเร็จของตัวห้องน้ำพกพา ในอนาคตข้างหน้า WC+ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างห้องน้ำพกพาสำหรับเด็ก และยังได้เงินทุนในการพัฒนาห้องน้ำพกพาสำหรับถ่ายหนักอีกด้วย

"เราต้องโชว์ศักยภาพของตัวเองให้คนอื่นเห็นก่อนว่าเราทำอะไรได้ หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเอง มันเหมือนเป็น Connecting dot ให้กับธุรกิจต่อไป"

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wcplusthailand.com/

หรือ Business Page ของ WC+ บนแอปพลิเคชัน MatchLink > Fit Mold Solution Co.,Ltd.

3.) ฟองฟอง: ความสำเร็จจากความใส่ใจ

หลายคนอาจคุ้นตากับน้ำเต้าหู้พร้อมดื่ม 'ฟองฟอง'

แต่เบื้องหลังความสำเร็จของน้ำเต้าหู้ที่ใส่ฟองเต้าหู้สดเจ้าแรก ไม่ใช่แค่การอยู่ในตลาดมากว่า 10 ปีเท่านั้นคุณเบนซ์ ศิริชัย เบ็ญจพรเลิศ เจ้าของฟองฟอง เจเนอเรชันที่ 3 เล่าว่าจุดเริ่มต้นของน้ำเต้าหู้บรรจุขวดคือต้องการเพิ่มโอกาสในการกินฟองเต้าหู้ตลอดทั้งปี นอกเหนือจากช่วงเทศกาล เนื่องจากฟองเต้าหู้มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ประกอบกับความชอบส่วนตัวที่อยากจะดื่มน้ำเต้าหู้ที่ไม่มีกลิ่นถั่วเหลือง จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำเต้าหู้สูตรดั้งเดิมของคุณแม่จนมาเป็นฟองฟองในทุกวันนี้เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกถั่วเหลือง Non-GMO ที่ไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม และฟองเต้าหู้ที่ทำสดใหม่ทุกวัน จนถึงวัสดุที่ปลอดภัยได้มาตรฐานสำหรับบรรจุภัณฑ์

ช่วงที่เริ่มกิจการฟองฟองในตอนแรก คุณเบนซ์พยายามเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็น End consumer หรือ ผู้บริโภคโดยตรง โดยเน้นไปที่กลุ่มพนักงานออฟฟิศ พอดีกับที่แฟนทำงานโรงแรม เมื่อไปรับแฟน ก็นำฟองฟองติดไปด้วย แนะนำกับฝ่ายจัดซื้อบ้าง ฝ่ายบุคคลบ้าง พอมีคนสั่ง 50 ขวด ก็เห็นช่องโอกาส นำติดไปอีก 20 ขวดเพื่อให้คนได้ลองชิมและรู้จักมากขึ้น จนเกิดการบอกต่อ ยอดขายกระโดดขึ้นมาอีกหลายเท่า โดยมีกลยุทธคือ พอเริ่มมีลูกค้าประจำ แล้วค่อยรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อดูแลตลาดส่วนนั้น ซึ่งในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายว่าจะมีลูกค้ารองรับแน่นอน

ตลอดการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น 'สินค้าอายุสั้น ทำให้เราอายุยืน' เป็นทั้งสโลแกนของฟองฟองและหลักในการการดำเนินธุรกิจอีกด้วย คุณเบนซ์อธิบายว่า เพราะฟองฟองเป็นสินค้าที่ทำสดใหม่ ไม่ผ่านสารปรุงแต่งหรือวัตถุกันเสีย สิ่งที่ใส่ลงไปเป็นธรรมชาติทั้งหมด ทำให้สินค้ามีอายุไม่เกิน 30 วัน แต่ความอายุสั้นของสินค้าและความใส่ใจนี่เอง ทำให้ธุรกิจดำเนินมา 11 ปีแล้ว เนื่องจากลูกค้าไว้วางใจในคุณภาพ ความสดใหม่ และความธรรมชาติที่ไม่มีสารเคมีใดใด

"เวลาเราทำธุรกิจ เราเชื่อว่าสิ่งดีๆ ทั้งหมดที่เราพยายามจะใส่ลงไปในตัวสินค้า ตอนแรกอาจจะยังไม่ได้การตอบรับมาก แต่ลูกค้าจะเห็นเองในอนาคต"

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fongtaohu2480.com

หรือ Business Page ของ FongFong บนแอปพลิเคชัน MatchLink > Ngow Jeng Ngoun Co.,Ltd

HTML::image( HTML::image( HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit