นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 หรือ Genesis Data Center ได้เข้าร่วมนำเสนอบริการศูนย์รับฝากข้อมูล ให้กับธนาคารเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้บริการศูนย์รับฝากข้อมูล โดยมีอายุสัญญา 5 ปี มูลค่าสัญญาประมาณ 140 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
"ทั้งปี ITEL เชื่อมั่นว่ากำไรสุทธิเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 โดยเป็นสเต็ป การเติบโตจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1 และเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาสในส่วนของกำไรสุทธิ ทั้งนี้บริษัทฯยังมองเห็นโอกาสในการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในโครงการระเบียงเศณษฐิจพิเศษ EEC เพราะนอกจากการลงทุนด้าน Infrastructure ต่างๆ ด้าน IT ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่มีการลงทุนนับเป็นโอกาสที่ดีของ ITEL "
โดยบริษัทได้รับคัดเลือกเป็นผู้ให้บริการดังกล่าว เนื่องจากการออกแบบศูนย์ข้อมูลที่ได้มาตรฐาน Tier-III Standard โดยได้การรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Uptime Institute ทั้งในด้านการออกแบบ (Design Documents) และด้านการก่อสร้าง (Constructed Facility) ทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001 และมาตรฐาน Payment Card Industry Security Standard (PCI DSS) อีกทั้งสถานที่ตั้งที่เดินทางสะดวก ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการลงนาม และเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 3 ปี 2561
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 ของ ITEL นั้นเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 บริษัท ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ( ITEL) บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ (AIT) และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ (WHA) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัท อยู่ที่ 1 ใน 3 ของหุ้นและการลงทุนในบริษัทใหม่ทั้งหมด
จุดเด่นของดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 คือ เป็นศูนย์ข้อมูลที่ออกแบบตามมาตรฐาน Tier 3 Standard ซึ่งสามารถขยายเป็น Tier 4 ได้ ด้วยมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสูง ก้าวนำทางเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมและการออกแบบโครงสร้างทาง Digital Transformation ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Uptime ทั้งในด้านการออกแบบ (Design Documents) และด้านการก่อสร้าง (Constructed Facility) มาตรฐาน ISO และ PCI โดยมีดาต้า เซ็นเตอร์เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่สามารถได้รับการรับรองคุณภาพและความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานสำคัญในระดับสากล มีศักยภาพตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดี ด้วยการรองรับน้ำหนักได้มากถึง 3,000 กิโลกรัมต่อ ตารางเมตร ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้ทุกชนิดตามความต้องการของลูกค้า ด้วยระยะทางห่างจากกรุงเทพฯเพียง30 กิโลเมตรซึ่งไม่ไกลเกินไป เมื่อเกิดเหตุขัดข้องขึ้นสามารถให้บริการได้อย่างไม่มีสะดุดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วัน ด้วย SLA 99.982% เสริมความแข็งแกร่งด้วย การให้บริการโดยเจ้าหน้าที่และทีมงานมืออาชีพ ที่เป็น 1 ในคนไทยเพียง 9 คนที่ได้รับ Certified Data Centre Expert (CDCE) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าที่นี่เป็นดาต้า เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ได้รับ Certified Data Centre Expert (CDCE) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าที่นี่เป็นดาต้า เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย