โครงการระดับนานาชาติก่อนหน้าของ ลิซโซนี่ ปรากฏออกมาในหลากหลายรูปแบบและได้ขยายไปถึง การดีไซน์และการตกแต่งภายใน เรือยอชท์ ที่พักอาศัย และโรงแรมหรูหรารวมทั้ง โรงแรม คอนเซอร์วาทอเรียม (Conservatorium) ในกรุงอัมสเตอร์ดัมซึ่งเป็นของโรงแรมในเครือเดอะเซ็ท (The Set) เช่นกัน นอกจากผลงานด้านสถาปัตยกรรมแล้วลิซโซนี่ยังได้รับการยกย่องในงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้สำหรับหลายบริษัทเช่น Boffi, Cassina, B & B Italia และ Flos จากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของโรงแรม ลิซโซนี่ได้ปรับเปลี่ยนทางเข้าหลักของโรงแรมเป็นฝั่ง Air Street ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพื้นที่ประวัติศาสตร์ของโรงแรมที่เป็นแบบดั้งเดิมนับตั้งแต่ก่อสร้างมาในปี ค.ศ.1926 จึงทำให้การรีโนเวทนี้เป็นงานที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่นอย่างยิ่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของงานของลิซโซนี่
ล็อบบี้ที่เรียบหรูได้ถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะของความรู้สึกกว้างขวางแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิค จึงทำให้มีเสน่ห์ร่วมสมัยซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดียิ่งกับไลฟ์สไตล์ของแขกประจำของโรงแรมแห่งนี้ เมื่อแขกผู้มาเยือนก้าวผ่านประตูหมุนที่สูงถึง 2 ชั้นเข้ามาก็จะสัมผัสได้ถึงการต้อนรับอันตระการตาด้วยวิวของชานเดอเลียร์แก้วจากเมืองมูราโน (Murano) ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโถงล้อบบี้ซึ่งออกแบบโดยบริษัทอิตาเลียนชื่อดังลิซโซนี่ แชนเดอเลียร์แก้วมีน้ำหนักมากกว่า 350 กิโลกรัมตั้งอยู่เหนือโต๊ะกลางห้องที่ออกแบบโดยลิซโซนี่ เช่นกัน และมีการแสดงดอกไม้โดยนักจัดดอกไม้ Jamie Aston จากร้านดอกไม้ของโรงแรมโฮเทล คาเฟ่ รอยัล ด้านหลังห้องมีแผนกต้อนรับและประชาสัมพันธ์ไว้ด้านข้าง ขนาบข้างด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่ที่มีหนังสือมากมายที่ผลิตและจัดทำโดย Maison Assouline เพื่อความสมบูรณ์ของล้อบบี้ ในส่วนที่เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดย Paolo Castelli และผู้ผลิตชาวอิตาเลียนในตำนานอย่าง Poltrona Frau, Cassina และ Living Divani เพื่อพร้อมให้บริการแก่ผู้เข้าพักและผู้มาเยือน ด้านแสงของห้อง ลิซโซนี่ อธิบายถึงสิ่งที่เขาต้องการว่าอยากให้ห้องดูออกมาในแบบ "เซ็กซี่น่าลุ่มหลงและตระการตาดั่งบทกวีที่ตรงกันข้ามกับความมืดมิด" โดยมีบริษัทผู้ผลิตด้านแสงประกอบด้วย Architectural FX (ใช้ระบบ LED แบบยั่งยืน) Atrium Flos และ John Cullen
บริเวณด้านบนเหนือล้อบบี้แห่งใหม่นี้ ลิซโซนี่ เป็นเป็นห้องอาหารขนาด 110 ที่นั่ง และด้วยความเป็นคนรักในอาหารและการทำครัวเป็นทุนเดิมทำให้สถาปนิกท่านนี้ได้ทำงานออกแบบให้กับเชฟมาหลายท่าน และตอนนี้เขาได้ร่วมงานกับเชฟชื่อดังระดับนานาชาติ Laurent Tourondel ผู้ซึ่งกำลังจะเปิดตัวร้านอาหารใหม่ของ โฮเทล คาเฟ่ รอยัล โดยร้านอาหารจะเป็นแบบแคชชัลแต่รสชาดสุดพิเศษ คุณภาพสูง สามารถทานได้ตลอดทั้งวันและจะสร้างโดยอิงประวัติศาสตร์ของห้องอาหาร Grill Room ห้องอาหารของโรงแรมที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ ค.ศ. 1865 ด้วยแนวคิดการย่างแบบใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย ห้องอาหารจะมีห้องครัวแบบเปิดให้บริการผักสดหลากหลายชนิด ปลา และเนื้อสัตว์จากเตาย่าง นอกจากนี้ยังมีซูชิรสเลิศเพื่อให้แขกเติมเต็มประสบการณ์อย่างครบครัน การจัดวางโต๊ะอาหารและแสงไฟโดยลิซโซนี่เพื่อมอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นกันเองแต่ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศที่ทันสมัยหรูหรามีระดับ โดยผลิตภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ใช้ภายในห้องอาหารนั้นได้รับการคัดเลือกอย่างละเมียดละไมโดยลิซโซนี่เอง
ดังที่ลิซโซนี่ได้กล่าวถึงโครงการ "ฉันต้องการที่จะเคารพและถ่ายทอด 'ความรู้สึก' ที่แท้จริงของความเป็นลอนดอนด้วยการผสมผสานชีวิตและรสชาดของชาวเมืองที่มีความสง่างามสืบทอดกันมายาวนาน" ในการทำงานร่วมกับโรงแรมต่างๆของเครือเดอะเซ็ท เพื่อร่วมกันสร้างและดำเนินโครงการให้เสร็จสมบูรณ์ เขาได้กล่าวอีกว่า "สำหรับโปรเจคนี้คำว่า 'เป็นไปไม่ได้' ถูกห้ามนำมาใช้"
จากทำงานร่วมกับลิซโซนี่อย่างบ่อยครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่สะดุดตาและประทับใจที่สุดคือการปรับโฉมอาคารมรดกของชาวดัตช์ให้เป็นโรงแรม คอนเซอร์วาทอเรียม ที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัม จอร์กี้ อะคิโรฟ (Georgi Akirov) ประธานของเดอะเซ็ท (The Set) ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า "โฮเทล คาเฟ่ รอยัล เป็นโรงแรมที่รักของทั้งชาวลอนดอนและแขกต่างชาติ ตั้งอยู่บนทำเลที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่อยู่ที่โดดเด่นพิเศษเปรียบเสมือนเป็นห้องนั่งเล่นของกรุงลอนดอน ผนวกกับล็อบบี้และร้านอาหารใหม่นี้พวกเขาจะมีพื้นที่อันยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งเพื่อพบปะสังสรรค์และเฉลิมฉลองกัน
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit