นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีความต้องการเพิ่มขีดความสามารถในอุตสาหกรรมอาหารไทย ภายใต้แนวคิด "ครัวไทยสู่ครัวโลก"เพื่อผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสินค้าทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคเกษตร รวมถึงธุรกิจด้านอาหารของไทยในการขยายฐานการค้าออกสู่ตลาดต่างประเทศผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ที่มีศักยภาพเสริมสร้างผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME ให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบโจทย์ผู้บริโภคในต่างประเทศได้ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มุ่งขยายช่องทางการค้าของไทยไปสู่เวทีโลกผ่านรูปแบบการจัดแสดงสินค้าและจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ(Business Matching) ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมศักยภาพและสร้างเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการ เชื่อมโยงนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่สินค้าไทยอย่างเช่นงาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 ที่เพิ่งผ่านมา
ด้านนายเธียรภัทร รัศมีไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการบจก. สยาม ดิลิเชียส กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตอาหารไทยที่ได้มีการแปรรูปผ่านนวัตกรรมการทำให้แห้งผ่านจุดเยือกแข็งแบบ สูญญากาศ(Freeze dry) โดยมีอาหารให้เลือกทานอยู่ 4 ประเภท ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ยำมะม่วง และต้มข่าไก่ ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของไทยและเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มีวางจำหน่ายภายในประเทศตามร้านขนาดใหญ่หรือโมเดิร์นเทรดต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติในประเทศไทยและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อเดือน
"บริษัทยังตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจโดยการส่งออก แต่เนื่องจากเรายังไม่มีความชำนาญ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสและศึกษาตลาดต่างประเทศโดยเราได้เข้าร่วมแสดงสินค้าที่งาน THAIFEX – World of Food Asia 2018ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นการออกงานแฟร์ระดับประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งผลตอบรับนั้นดีเกินคาด เพราะไม่เพียงทำให้ได้ยอดขายภายในงานยังมีโอกาสได้พบนักธุรกิจจากต่างประเทศที่มาร่วมงาน และที่สำคัญมีหลายประเทศให้ความสนใจที่จะนำสินค้าเราไปจำหน่าย อาทิ ไอร์แลนด์ , มาเลเซีย, เกาหลี ,สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง และจีน เป็นต้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นการเจรจาเรื่องการนำเข้าสินค้า จึงคาดว่าเราจะสามารถเพิ่มรายได้จากที่เคยอยู่ประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน ให้กลายเป็น 4,000,000 บาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว" นายเธียรภัทร กล่าว
นายเธียรภัทร กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการยกระดับสินค้า สร้างมาตรฐานการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ ทางเราจึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มองค์ความรู้ ผ่านการอบรมสัมมนากับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาความรู้ด้านการส่งออกและนำมาปรับใช้กับสินค้าของเราต่อไป ซึ่งสถาบันฯ มีการจัดอบรมให้กับผู้ประกอบการในหลายหลักสูตร โดยหลักสูตรที่บริษัทให้ความสนใจเป็นพิเศษจะเน้นเรื่องการส่งออกเป็นหลัก อาทิ หลักสูตรติดปีก SMEs ไทย บินไกลสู่ตลาดโลก หรือ หลักสูตรการส่งออกเบื้องต้น (Basic Export) เป็นต้น
"หลังจากจบงาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 ผลตอบรับที่ได้ถือว่าดีเกินความคาดหมายอย่างมากนอกจากเรื่องตลาดต่างประเทศและยอดขายที่มากขึ้นแล้วนั้น สินค้าของเรายังได้รับความสนใจ โดยตอนนี้มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในประเทศเยอรมนีได้เชิญบริษัทให้นำสินค้าไปแสดงในงาน Thai Festival 2018 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2561 ณ ประเทศเยอรมนีเลยทีเดียว หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เราได้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสด้านการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม จึงเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าไปพร้อมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่จะช่วยเสริมและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการของไทย จะเป็นก้าวย่างที่มั่นคงและทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบยั่งยืนได้อย่างแน่นอน" นายเธียรภัทร กล่าว
ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit