นางสาวรัชดาวรรณ เลิศศิลาทอง รองผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารและกิจการองค์กร และรักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้บริหารจัดการโครงการบัตรเอกสิทธิ์พิเศษ "ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด" เปิดเผยว่า ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ดฯได้รับโอกาสจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ให้เดินทางไปร่วมโรดโชว์กับททท. เพื่อโปรโมทประเทศไทย และแนะนำสิทธิประโยชน์บัตรไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด ช่วยขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วมกับตัวแทนขายบัตรประจำประเทศญี่ปุ่น ร่วมโรดโชว์ภายในงาน "TAT Road Show Japan 2018" ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดขึ้นใน 3 เมืองอุตสาหกรรมหลักของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ เมืองฟูกูโอกะ โอซาก้า และโตเกียว เป็นการรวมตัวของนักธุรกิจและนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Young Investors หรือกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
"ที่ญี่ปุ่นเรามีตัวแทนขายบัตร คือบริษัทไดมารุ เทรดดิ้ง (Daimaru Trading Co.,Ltd.) และบริษัทอาร์คไลฟ์ (ARC Life Co.,Ltd.) ซึ่งเป็น General Sales and Services Agent ทำให้เรามีฐานสมาชิกของชาวญี่ปุ่นมากเป็นอันดับต้นๆ และมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะกลุ่ม Young Investors ที่มีอายุระหว่าง 35-40 ปีต้นๆ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และกำลังบูมมากในญี่ปุ่น โดยจากการเดินทางไปร่วมโรดโชว์กับททท. ครั้งล่าสุด พบว่า ประเทศไทยและโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด ฯ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่ม Young Investors และกลุ่มคนวัยทำงาน ทั้งด้านความเชื่อมั่นในศักยภาพการลงทุนในประเทศไทย และทางด้านภาพลักษณ์และสิทธิประโยชน์ของบัตรไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการบริการและอำนวยความสะดวกต่างๆในการเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ทำให้ฐานสมาชิกกลุ่ม Young Investors มีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยเกษียณ 60 ปีขึ้นไป" รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าว และเสริมว่า
อย่างไรก็ตาม นอกจากกลุ่ม Young Investors แล้ว ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด ยังมุ่งขยายฐานกลุ่ม Long Stay ที่ต้องการเข้ามาพำนักในประเทศไทยในระยะยาวอีกด้วย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก Long Stay Foundation ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐของประเทศญี่ปุ่นที่สรรหาบ้านหลังที่ 2 ให้แก่ชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุ และต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีการสมัครสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิทคาร์ดฯ มากเป็นอันดับที่ 5 รองจาก จีน อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส ส่วนอันดับ 6-10 ได้แก่ ออสเตรเลีย บังคลาเทศ รัสเซีย เยอรมันนี และ สวิตเซอร์แลนด์
ทั้งนี้ ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ดฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยททท. ถือหุ้น 100% ดำเนินงานผ่านรูปแบบการใช้แนวคิดแบบบัตรสมาชิกพิเศษ หรือ Exclusive Member Club โดยให้บริการอำนวยความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มเป้าหมาย อันเป็นการสร้างให้เกิดแรงจูงใจ และส่งเสริมทางการตลาดของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพระดับสูง เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัจจุบัน ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ดฯ มีสมาชิกอยู่มากกว่า 5,940 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2561) และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 127 ราย (ข้อมูลเดือนตุลาคม 2560 – 31 พฤษภาคม 2561) หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 140% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 92 ราย (ค่าเฉลี่ยของเป้าเดือนตุลาคม 2560 – 31 พฤษภาคม 2561) ต่อเดือน
ปัจจุบัน มีบัตรทั้งสิ้น 8 ประเภท มีความหลากหลายทั้งด้านราคาและสิทธิประโยชน์ ตั้งแต่ 5 แสน – 2 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งชาวต่างชาติที่มีฐานะปานกลาง จนถึงฐานะร่ำรวย รวมถึงกลุ่มที่เข้ามาเป็นครอบครัว โดยเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่รักเมืองไทย ต้องการอยู่อาศัยและลงทุนในประเทศไทย จากการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโด การเช่าบ้านและคอนโด และการใช้จ่ายในประเทศไทย นับเป็นการลงทุนในประเทศไทยอย่างหนึ่ง ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้แค่ระยะเวลาไม่กี่วันในประเทศไทย ในขณะที่กลุ่มสมาชิกพำนักหลายปี รวมถึงมีการลงทุนในรูปแบบต่างๆ (Investment Immigration) ทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit