บอร์ดอีอีซี ถกจัดทำแผนโครงการใช้ทุนทางวัฒนธรรมพัฒนาพื้นที่ ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว หนุนงานประเพณี นำทุนวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

21 Jun 2018
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังคณะอนุกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า จากกรณีที่รัฐบาลกำหนดนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ที่มีพื้นที่ติดต่อ อาทิ จันทบุรี ตราด สระแก้ว ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งทุนทางวัฒนธรรมจำนวนมากที่สามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อพิจารณาจัดทำโครงการที่จะบรรจุในร่างแผนปฏิบัติการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อีอีซี เพื่อจัดส่งรายละเอียดทั้งหมดให้แก่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.)
บอร์ดอีอีซี ถกจัดทำแผนโครงการใช้ทุนทางวัฒนธรรมพัฒนาพื้นที่ ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว หนุนงานประเพณี นำทุนวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

นายวีระ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการและแผนงานของหน่วยงานในสังกัด วธ.เพื่อบรรจุไว้ในร่างแผนปฏิบัติการอีอีซี ซึ่งที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานของ วธ. ได้แก่ กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กรมการศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา ไปพิจารณาคัดเลือกโครงการที่จะบรรจุเข้าสู่แผนปฏิบัติการอีอีซี ทั้งที่เป็นโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ และโครงการที่ วธ. ดำเนินการตามแผนงบประมาณที่ได้จัดตั้งไว้ ซึ่งโครงการและแผนงานที่จะเสนอบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการอีอีซี จะเป็นการโครงการยกระดับแหล่งเรียนรู้ อาทิ การปรับปรุงภูมิทัศน์และบูรณะโบราณสำคัญในพื้นที่ที่อีอีซี สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม การส่งเสริมเทศกาลและประเพณี การนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯได้เสนอว่า โครงการที่จะเสนอบรรจุในร่างแผนปฏิบัติการอีอีซี ควรจะเป็นโครงการพิเศษที่จะสอดคล้องและรองรับในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ไม่ใช่โครงการที่วธ.ดำเนินการในงบประมาณประจำปี

นายวีระ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการพบปะหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่นและผู้แทนเกษตรกรในภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ณ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีประเด็นที่ วธ. ต้องดำเนินการ อาทิ การขยายถนนวัฒนธรรม ชุมชนริมน้ำจันทบูร จังหวัดจันทบุรี เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวถนนชุมชนริมน้ำจันทบูรกับถนนศรีจันท์ (ตลาดพลอยถนนศรีจันท์) และบริเวณอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากผู้แทนจังหวัดจันทบุรีว่า การขยายถนนได้ดำเนินการตามข้อสั่งการแล้ว ส่วนการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูรกับถนนศรีจันท์ ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ในส่วนการดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เรื่องการพัฒนาเมืองโบราณดงละคร จังหวัดนครนายก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ประชุมมีมติให้ จังหวัดนครนายกร่วมกับกรมศิลปากร จัดทำรูปแบบการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองโบราณดงละคร อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานสังกัด วธ. ไปวิเคราะห์โครงการที่ได้ดำเนินการในพื้นที่อีอีซี ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาโครงการให้รองรับแผนปฏิบัติการอีอีซี รวมถึงให้สำรวจทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่ เพื่อนำมาวางแผนจัดทำโครงการให้สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่และนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป

บอร์ดอีอีซี ถกจัดทำแผนโครงการใช้ทุนทางวัฒนธรรมพัฒนาพื้นที่ ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว หนุนงานประเพณี นำทุนวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บอร์ดอีอีซี ถกจัดทำแผนโครงการใช้ทุนทางวัฒนธรรมพัฒนาพื้นที่ ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว หนุนงานประเพณี นำทุนวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บอร์ดอีอีซี ถกจัดทำแผนโครงการใช้ทุนทางวัฒนธรรมพัฒนาพื้นที่ ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว หนุนงานประเพณี นำทุนวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก