ปรับสมดุลชีวิต พิชิตโรคด้วย 61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย

21 Jun 2018
ทุกวันที่คุณทุ่มเทให้กับการทำงาน ทรัพย์สินเงินทองอาจเพิ่มขึ้น แต่สุขภาพกลับมีแต่จะถดถอยลง หลายครั้งไปหาหมอแล้วหาสาเหตุไม่พบ หรือเป็น ๆ หาย ๆ รักษาโรคไม่หายขาด ส่วนท่านที่สุขภาพแข็งแรง ก็ใช่ว่าจะแข็งแรงตลอดไป โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับแรงกดดันจากการทำงานเป็นประจำ ควรระวังเป็นพิเศษ
ปรับสมดุลชีวิต พิชิตโรคด้วย 61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย

สาเหตุเหล่านี้มาจากการขาดพลังการฟื้นฟูร่างกาย จึงทำให้ระบบภายในเสียสมดุล ไม่แข็งแรง และเจ็บป่วยได้ง่าย วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีน ซึ่งสืบทอดท่ากายบริหารมาจากสมัยราชวงศ์สุย โดยอาศัยพลังลมปราณ หรือ "ชี่" ของร่างกายในการบำบัดโรค ผ่านท่าออกกำลังกายที่รวบรวมไว้ในหนังสือ "61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ มาถ่ายทอดความรู้ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจกลไกการทำงานของร่างกาย และฟื้นฟูสุขภาพด้วยตนเอง อยู่ที่ไหนก็ทำได้ทุกที่ทุกเวลา

มาปรับสมดุล...ชีวิตกันเถอะ

วันนี้เราขอยกตัวอย่างเคล็ดลับสุขภาพบางส่วนจากหนังสือ "61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย" ที่ช่วยให้คุณฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างง่าย ๆ ที่บ้านมาฝากกัน

  • ท่าบริหารลมหายใจ บางคนอาจคิดว่าเราหายใจอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำไมต้องฝึก แต่แท้จริงแล้วการฝึกหายใจให้ถูกวิธีจะช่วยเผาผลาญ "ชี่โรคซึ่งเป็นโทษออกมา" อีกทั้งยังช่วยนวดอวัยวะภายในไปพร้อมกันด้วย

ตัวอย่างเช่น พนักงานออฟฟิศที่มักปวดหัวไมเกรน เราอยากเนะนำให้ฝึก "ท่าหายใจเข้าและออกทางรูจมูก" โดยรวมพลังไว้ที่กระหม่อม ให้ชี่โรคระบายออกทางจุดกลางกระหม่อม ส่วนผู้ที่แน่นหน้าอกให้ฝึก "ท่าหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปาก" โดยรวมพลังไว้ที่กลางอก ให้ชี่โรคระบายออกทางกึ่งกลางหน้าอก และผู้ที่ปวดท้องบ่อย ๆ แนะนำให้ฝึก "ท่าหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปากจนท้องป่อง" โดยรวมพลังไว้ที่ท้อง ให้ชี่โรคระบายออกทางจุดที่อยู่ใต้สะดือ ซึ่งท่าบริหารลมหายใจที่เรายกมาฝากเหล่านี้ จะช่วยขับของเสียและรับของใหม่ตลอดเวลา ทำให้สุขภาพแข็งแรง

  • ท่าบริหารมือ ความเครียดและแรงกดดันต่าง ๆ ที่อัดอั้นอยู่ภายใน ระบายออกทางฝ่ามือได้ดีที่สุด เพียงแค่ขยับมือ หมุนข้อมือ สะบัดมือเล็กน้อย ก็ช่วยคลายความเครียดและลดแรงกดดันได้

นอกจากนี้ อาการมือเท้าชา ยังเป็นสัญญาณเตือนของร่างกายที่ช่วยให้เรารู้ว่าการไหลเวียนเลือดผิดปกติ เนื่องจากปลายประสาทตามมือและเท้าอยู่ห่างจากหัวใจ ทำให้ออกซิเจนและสารอาหารลำเลียงมาไม่ถึง จึงมักมีอาการปวดหลังและเอว เดินเหินไม่สะดวก สายตาพร่ามัว สมองเสื่อม เป็นต้น อาการเหล่านี้มีวิธีแก้ไขง่ายมากคือ ให้ชูนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วทั้งสี่สลับกัน ซึ่งท่านี้ช่วยให้นิ้วทั้งห้าผลัดกันยืดตัว ทำให้มืออบอุ่น สำหรับสตรีมีครรภ์ การบริหารท่านี้จะช่วยให้การไหลเวียนบริเวณมือเชื่อมโยงกับสายรกของเด็กในท้อง ทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้ออกกำลังกายไปด้วย

  • ท่าบริหารขา เป็นที่ทราบกันว่า "ขา" เป็นอวัยวะที่อยู่ห่างจากหัวใจมากที่สุด เมื่อการไหลเวียนของเลือดไม่ดี อาการผิดปกติจะแสดงออกมาที่ขาก่อน เช่น ขาเย็น เมื่อย หรือชา ซึ่งแก้ไขได้โดยการนั่งยกเท้าขึ้นจากพื้น ทำข้างเดียวหรือ 2 ข้างพร้อมกันก็ได้ จากนั้นยกนิ้วหัวแม่เท้าขึ้น สลับกับการยกนิ้วเท้าทั้งสี่ แล้วกดนิ้วหัวแม่เท้าให้ต่ำลง วิธีนี้นอกจากจะช่วยแก้อาการเท้าเย็นแล้วยังช่วยแก้อาการแพ้ท้องได้อีกด้วย
  • ท่าบริหารใบหน้า สำหรับคนวัยทำงานหรือนักเรียนที่ต้องใช้สายตามาก การฝึกท่าบริหารดวงตา หรือใช้มือนวดรอบดวงตา แล้วฝึกท่ามือทาบคิ้ว เป็นการบริหารหัวคิ้ว หนังตา และเส้นประสาทตาไปพร้อมกัน จะช่วยคลายความอ่อนล้าของดวงตา ป้องกันโรคตาแห้ง สายตาเสื่อม และโรคตาอื่น ๆ เริ่มจากหลับตาทั้ง 2 ข้าง ออกแรงบีบให้แน่นแล้วคลาย แต่ยังคงหลับตาอยู่ ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยบริหารหัวคิ้วและประสาทตา ส่วนท่ามือทาบคิ้ว ให้หลับตา ทาบฝ่ามือทั้ง 2 ข้างไว้ที่คิ้ว และขยับฝ่ามือขึ้นลงเพื่อนวดดวงตาและจุดต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังมีท่าบริหารเสริมความงามคือ ท่ายืดริมฝีปากบน โดยยืดริมฝีปากบนลงด้านล่างให้มากที่สุด ค้างไว้สักครู่ แล้วปล่อยริมฝีปากกลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยบริหารใบหน้า จมูก และคิ้ว กระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ใบหน้า ปรับรูปหน้า และลดอาการบวมของใบหน้าได้

  • ท่าบริหารไหล่และคอ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนสมัยนี้มักใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีเกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผลพวงที่ตามมาคืออาการปวดเมื่อยหรืออักเสบที่ไหล่ คอ เอว และหลัง นอกจากนี้ บริเวณลำคอยังมีเส้นประสาทกระดูกคอที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของคอ ไหล่ และมือ ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหาจะส่งผลให้รู้สึกชาและปวด ท่าบริหารที่เราแนะนำนี้ เพียงใช้เวลาสั้น ๆ ในการฝึกท่าผงกศีรษะ โดยการยืนหลังตรง ก้มหน้าให้คางชิดอกมากที่สุด ค้างไว้สักครู่ แล้วเงยหน้ากลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งเพื่อยืดกล้ามเนื้อคอด้านหลังและต่อมใต้สมอง ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยแก้ปวดเมื่อยคอแล้ว ยังกระตุ้นการเจริญเติบโต ป้องกันโรคอัลไซเมอร์และเสริมความจำได้อีกด้วย

สิ่งสำคัญที่สุด เราควรหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หากปล่อยปละละเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็คงสายเกินไป "61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย" เล่มนี้ จะช่วยให้คุณได้รู้จักท่ากายบริหารต้านโรคร้ายทั้งหมด 61 ท่าพร้อมภาพประกอบที่ช่วยให้เข้าใจง่าย และปฏิบัติตามได้ทันที อย่างไรก็ตาม ท่าบริหารที่แนะนำนี้เป็นเพียงส่วนเสริมที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพด้วยตนเองเท่านั้น หากท่านใดมีโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงก็ยังคงต้องได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป ไม่ควรหยุดรับการรักษาโดยพลการอย่างเด็ดขาด

พบกับการฟื้นฟูสุขภาพด้วยท่าบริหารง่าย ๆ ใน "61 ท่าบริหารมหัศจรรย์ ต้าน 50 โรคร้าย" จำนวน 208 หน้า ราคาเล่มละ 235 บาท มีวางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อ โทร. 0-2622-3000 กด 0 หรือ www.nanmeebooks.com, www.facebook.com/nanmeebooksfan ติดตามข่าวสารและหนังสือที่น่าสนใจอีกมากมายเพียง ADD LINE @nanmeebooks และ @nmbadult

HTML::image( HTML::image( HTML::image(