นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 18 - 20 มิถุนายน 2561 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 – 4 เมตร อ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป คลื่นสูง 2 – 3 เมตร อีกทั้งมีปริมาณฝนสะสมเพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม รวมถึงคลื่นลมแรง โดยจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอุทกภัย ได้แก่ ชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร ท่าแซะ สวี หลังสวน และพะโต๊ะ) สุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าชนะ ท่าฉาง วิภาวดี คีรีรัฐนิคม และพนม) ระนอง(อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น และกะเปอร์) พังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมืองและตะกั่วทุ่ง) จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังคลื่นลมแรง แยกเป็น ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศปริมาณฝน ระดับน้ำและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเรือทุกประเภท ทั้งเรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก และเรือเฟอร์รี่ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังพร้อมตรวจสอบสภาพเรือให้มีความปลอดภัย และอุปกรณ์ชูชีพให้เพียงพอ ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัย โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit