นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง ซูเปอร์ จีที เรซ ได้จัดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ทางฮอนด้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนี้ ถือเป็นการตอบรับกระแสกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของวงการมอเตอร์สปอร์ตที่เติบโตขึ้น อีกทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และการเติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการกีฬา ให้แก่ จ.บุรีรัมย์
ปีนี้ ทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้าเข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 7 ทีม โดยใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ในรุ่นจีที 500 และรถยนต์เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที 3 ในรุ่นจีที 300 ซึ่งหนึ่งทีมที่น่าจับตามองที่สุด คือ ทีมคูนิมิตซึ หมายเลข 100 ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 3 สนามที่ผ่านมา ขึ้นแท่นทีมและนักขับอันดับ 1 ในตารางขณะนี้ ด้วยความพร้อมของรถยนต์และนักแข่งทุกๆ ทีม ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า การแข่งขันที่สนามช้างในปีนี้ จะสนุกและเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา อย่างแน่นอน"
สำหรับการแข่งขัน "ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018" เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสนามที่ 4 ของฤดูกาลแข่งขันปี 2018 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ ต่อเนื่องจาก 3 สนามก่อนหน้านี้ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา
ในปีนี้ ทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้าเข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 7 ทีม แบ่งเป็น 5 ทีมในรุ่นจีที 500 ได้แก่ ออโต้แบคส์ เรซซิ่ง ทีม อากูริ หมายเลข 8 (Autobacs Racing Team Aguri - No. 8) ทีม มูเก็น หมายเลข 16 (Team Mugen - No. 16) ทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง หมายเลข 17 (Team Keihin Real Racing - No. 17) ทีม เอปสัน นากาจิม่า เรซซิ่ง หมายเลข 64 (Team Epson Nakajima Racing - No. 64) และทีม คูนิมิตซึ หมายเลข 100 (Team Kunimitsu - No. 100) โดยใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที และ 2 ทีมในรุ่นจีที 300 ได้แก่ ทีม โมดูโล ดราโก คอร์ส หมายเลข 34 (Team Modulo Drago CORSE – No. 34) และ ทีม คาร์กาย เรซซิ่ง หมายเลข 777 (Team CARGUY Racing) โดยใช้รถยนต์เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที 3 การแข่งขันรอบคัดเลือกจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 และรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2560 และจะทำการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 66 รอบ ในสนามที่มีความยาว 4.554 กิโลเมตร และ มีโค้งทั้งหมด 12 โค้ง รวมระยะทางการแข่งขันกว่า 300 กิโลเมตร
อีกหนึ่งสีสันที่แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยไม่ควรพลาด คือ การแข่งขันซัพพอร์ตเรซ "ฮอนด้า เรซซิ่ง 2018" ซึ่งในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมแข่งขันถึง 47 ทีม ใน 3 รุ่นการแข่งขัน ได้แก่ ฮอนด้า โปร คาร์ (Honda Pro Car) ฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย (Honda Pro Car Modify) และฮอนด้า บริโอ้ คัพ (Honda Brio Cup) เพื่อชิงถ้วยเกียรติยศและเงินรางวัลรวมกว่า 750,000 บาท โดยทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะทำการแข่งขัน ทั้งหมด 2 เรซ ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 9.00 - 9.40 น. จะมีการแข่งขันเรซที่ 1 สำหรับรุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ และฮอนด้า บริโอ้ คัพ เวลา 16.30 - 17.10 จะมีการแข่งขันเรซที่ 1 สำหรับรุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย และเรซที่ 2 สำหรับรุ่น ฮอนด้า บริโอ้ คัพ ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม เวลา 8.55 - 9.35 น. จะมีการแข่งขันเรซที่ 2 สำหรับ ฮอนด้า โปร คาร์ และฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ Honda Track Experience เพื่อให้ลูกค้า ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ (Jazz GK) รวม 50 คัน ได้สัมผัสประสบการณ์บนสนามการแข่งขันระดับโลกผ่านการขับขี่จริงในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะทำการวิ่งในสนามเป็นขบวนพร้อมๆ กัน ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม โดยลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการขับขี่ในสนามแข่งขั้นพื้นฐานจากกิจกรรม Honda Driving Clinic โดยทีมครูฝึกที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศ แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่มาชมการแข่งขัน ยังสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย และเลือกซื้อของที่ระลึกจาก ฮอนด้า คอลเลคชั่นได้ที่บูธฮอนด้าบริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ตลอด 2 วันของการแข่งขัน
ผู้ที่สนใจเข้าชมการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สามารถซื้อบัตรได้ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา และทางเว็บไซต์ www.allticket.com หรือติดตามชมผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง 24 (True4U) โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก (Knock Out Qualifying) จะถ่ายทอดสดในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 15.00 – 16.30 น. และรอบชิงชนะเลิศ (Final) ถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม เวลา 14.30 – 17.30 น.