นายพงษ์ภาณุ เปิดเผยว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝนและเรามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) , สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ และ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้เพิ่มมาตรการป้องกันและความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากตามสถิติและการรายงานที่ผ่านมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยังคงเดินทางท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากแม้จะเป็นฤดูฝนและเป็นช่วงมรสุมก็ตาม
โดยกระทรวงฯเน้นนโยบายเรื่องความปลอดภัย และ บูรณาการการทำงานกับหน่วยต่างๆ ในจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงให้มีการประสานกับกรมเจ้าท่า กรมอุทยานฯ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องการเข้มงวดกวดขันในสิ่งที่เป็นกฎระเบียบ รับฟังการพยากรณ์อากาศ หรือการย้ำเตือนเพื่อลดการสูญเสียและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทย
"ตนได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก โดยได้เน้นย้ำกับหน่วยงานในสังกัดว่าต้องเข้มงวดกวดขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูมรสุม โดยเรือเล็กต้องห้ามออกจากฝั่ง การลงเรือต้องสวมอุปกรณ์ ชูชีพทุกครั้ง ความพร้อมของเรือต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สภาพโป๊ะ หรือ ท่าเรือต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ป้ายเตือนตามแหล่งท่องเที่ยว หรืออุทยาน ต้องมีความชัดเจน มีภาษาสากล และ ใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ปลัดฯพงษ์ภาณุกล่าวเพิ่มเติมว่า "หากพี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ต้องการความช่วยเหลือสามารถ โทรสายด่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว Call Center 1155 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) 02 - 134 - 4077 โดยเรามีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลี รัสเซีย เตรียมพร้อมคอยรับสายและบริการตลอด 24 ชั่วโมง"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit