ในย่านที่สะดวกสบาย สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพที่สุดในเมืองไทย มั่นใจดันยอดนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ปลายปี 61 ถึง 1 ล้านคนต่อวัน พร้อมตอกย้ำความเป็น "ราชประสงค์ แบงคอก ดาวน์ทาวน์ (Ratchaprasong Bangkok Downtown)" ประกาศแผนพัฒนาย่านสู่การเป็น Smart District จับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เชื่อมโยงเทคโนโลยีสู่การใช้ชีวิตแบบสมาร์ทไลฟ์สไตล์ (Smart Lifestyle)
ปัจจุบันย่านราชประสงค์ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านประมาณ 600,000 คนต่อวัน โดยมีห้องพักโรงแรม 5 ดาว อยู่ในย่าน กว่า 4,000 ห้อง พื้นที่ช็อปปิ้งรวม 884,200 ตร.ม. ร้านค้าภายในย่าน 5,500 ร้านค้า อาคารสำนักงาน 169,000 ตร.ม. และเป็นศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมโดยรวมเทวสถานของมหาเทพศักดิ์สิทธิ์ 8 พระองค์ ไว้ในบริเวณเดียวกัน โดยมีระบบคมนาคมครบถ้วน ได้แก่ ทางรถยนต์ เรือ รถไฟฟ้า โดยเฉพาะโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้า ซึ่งย่านราชประสงค์มุ่งเน้นในการสร้างทางเดินลอยฟ้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดได้พัฒนาโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้าเชื่อม 4 ทิศทางอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้ชื่อ Ratchaprasong Walk หรือ R-Walk ด้วยเงินลงทุน 715 ล้านบาท โดยล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา R-Walk ทางเดินมุ่งสู่ทิศเหนือได้เชื่อมต่อกับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ ทำให้เชื่อมโยงไร้รอยต่อเข้าสู่ 18 อาคาร ความยาวรวม 1,150 เมตร แบ่งการเดินเป็น 2 เส้นทาง คือ ทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลมมุ่งสู่แยกเฉลิมเผ่า ความยาวกว่า 650 เมตร และทิศใต้สู่ทิศเหนือ จากแยกราชประสงค์ ผ่านเกษรวิลเลจ สู่ เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ความยาวกว่า 500 เมตร ทำให้ขณะนี้มีผู้ใช้บริการบน R-Walk รวม 100,000 คนต่อวัน ถือเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายทางเดินในย่าน ซึ่งเป็นแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสังคมและชุมชนเพื่อให้เกิดการเดินท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและปลอดภัย นำไปสู่การขยายตลาดและรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น สร้างย่านราชประสงค์ให้เป็นย่านต้นแบบในการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างแท้จริง
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "ย่านราชประสงค์เป็นย่านที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการทุ่มเทพัฒนาจนยกระดับเป็นย่านแห่งธุรกิจและไลฟ์สไตล์สำคัญของประเทศ จนเรียกได้ว่า "ราชประสงค์ โมเดล" ต้นแบบของย่านธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และการท่องเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อการคมนาคมที่ครบวงจร ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางธุรกิจ การท่องเที่ยว กิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย ทำให้เป็นย่านที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและภาครัฐที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรม ในการพัฒนาย่านราชประสงค์อย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในแง่การออกแบบผัง การก่อสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก การนำนวัตกรรมมาใช้ การเข้มงวดด้านความปลอดภัย และการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ดังจะได้เห็นจากการที่ราชประสงค์ได้ร่วมกันกับสมาชิกภายในย่านสร้างเมกกะโปรเจ็กต์ "ราชประสงค์ วอล์ก หรือ R-Walk" เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวม ยกระดับความทันสมัย ความสะดวกสบาย ให้แก่นักท่องเที่ยว อันจะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะช่วยยกระดับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกต้องการมาเยือนมากที่สุด"
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บีทีเอส ดำเนินธุรกิจหลักคือให้บริการธุรกิจระบบขนส่งมวลชน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่รถไฟฟ้า แต่เป็นระบบ Mass Transit ที่พร้อมก้าวเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ บีทีเอส จึงมีหน้าที่ในการพัฒนาระบบขนส่ง พร้อมให้ความสำคัญด้านโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้า ดังนั้น R-Walk จึงถือเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคนในกรุงเทพฯ ให้สะดวกสบายและสมบูรณ์แบบ และเป็นการเชื่อมทางคมนาคมไปสู่บีทีเอสแบบไร้รอยต่อ สอดคล้องกับพันธกิจของบีทีเอส
"Lift Up Your Life" ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และเชื่อว่าการให้ความสะดวกในการเดินทางทำให้การใช้ชีวิตคนเปลี่ยนไป เพราะมีเวลามากขึ้น R-Walk จึงเป็นโมเดลโครงข่ายเส้นทางเดินลอยฟ้าต้นแบบให้ย่านอื่นๆ ในกรุงเทพฯ นำไปพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ"
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า "พัฒนาการของย่านราชประสงค์ รวมถึง R-Walk นั้นเกิดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งในการทำงานของ ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณความร่วมมือร่วมใจกันของพันธมิตรทุกฝ่าย ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ และสมาชิกภายในย่านราชประสงค์ ที่ร่วมกันมอบชีวิตไร้รอยต่อผ่านโครงข่ายทางเดินเชื่อมต่ออาคารรวม 18 อาคาร ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การสร้าง "Walkable District – ย่านนี้เพื่อคนเดิน" ทำให้คนสามารถเดินทางได้ไกลและเข้าถึงสถานที่ต่างๆ ในย่านได้มากขึ้น นำไปสู่การขยายตลาดในวงกว้าง ซึ่งโครงข่ายทางเดินลอยฟ้านี้ทำให้เกิดการหมุนเวียนและการสัญจรภายในย่าน นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต (Life) เศรษฐกิจ (Economy) ให้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับสไตล์ (Style) ซึ่งเมื่อคนสามารถเดินได้ไกลขึ้น เส้นทางที่ตัดผ่านและเชื่อมต่อทำให้ย่านราชประสงค์เกิดพื้นที่ใหม่ๆ เช่น Co-Working Space ที่มากที่สุด เอาใจคนรุ่นใหม่ที่ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาและเกิดเป็นไลฟ์สไตล์ขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้นย่านราชประสงค์ยังรุดหน้าเชื่อมต่อทางเทคโนโลยีและพัฒนาหลายๆ โครงการให้ย่านนี้เป็น Smart District ย่านแรกในประเทศไทย"
นายฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า "เกษรวิลเลจ ในฐานะที่เป็นอาณาจักรไลฟ์และสไตล์ในรูปแบบ มิกซ์ยูส เออร์บันวิลเลจ ใจกลางกรุงเทพมหานคร เราคำนึงถึงการเชื่อมต่อสังคมและชุมชนด้วยการสร้างสถานที่ที่มอบประสบการณ์ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพทุกด้าน ทั้ง WORK-LIVE-PLAY-GROW การเชื่อมต่อของ R-Walk ทำทุกพื้นที่ในเกษรวิลเลจ เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และนำมาซึ่งผู้คนที่อยากเข้ามาใช้ชีวิตและใช้บริการในเออร์บันวิลเลจแห่งนี้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีคุณภาพในทุกด้าน ได้แก่ สถานที่ทำงานและประกอบธุรกิจ ด้านช็อปปิ้ง ร้านอาหาร การบริการด้านสุขภาพ และความงาม ในวันนี้เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบประสบการณ์อันไร้รอยต่อให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยว และเติมเต็มย่านราชประสงค์ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การเข้ามาสร้างประสบการณ์ใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว"
นายสุรชัย โชติจุฬางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ความโดดเด่นของย่านราชประสงค์คือ การเชื่อมต่ออย่างครบวงจรไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การใช้ชีวิต และการประกอบธุรกิจการค้า เพราะมีทั้งศูนย์แฟชั่นค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม และสำนักงาน ที่พักอาศัย และร้านค้าปลีกย่อยอีกมากมาย และที่สำคัญภายในปลายปีนี้ กลุ่มบริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ยังได้เตรียมมอบเซอร์ไพรซ์ประสบการณ์ช็อปปิ้งในรูปแบบใหม่ "เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก" (The Market Bangkok) ศูนย์การค้าปลีกแห่งใหม่ใจกลางย่านราชประสงค์ที่มีการก่อสร้างโครงการในรูปแบบศูนย์การค้าทันสมัย ผสานกับเอกลักษณ์และเสน่ห์ความเป็น "ตลาด" แบบไทยๆ เตรียมเปิดตัวและสร้างสีสันที่หลากหลาย ภายในปลายปีนี้แน่นอน คาดว่าจะช่วยเติมเต็มสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับย่านมากยิ่งขึ้น พร้อมตอกย้ำจุดหมายปลายทางย่านราชประสงค์ ย่านแห่งการใช้ชีวิต ช็อปปิ้ง และท่องเที่ยวระดับโลก"
นางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า "ราชประสงค์เป็นย่านที่มีสีสันสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ นับเป็นสาขาที่โดดเด่นของบิ๊กซี เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ดีและมีการร่วมมือกันพัฒนาของสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้เชื่อมต่อเข้ากับทางเดิน R-Walk โดยเปิดพื้นที่
ชั้น 2 ต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนทำงานในย่านราชประสงค์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวและยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเปิดให้บริการมินิบิ๊กซี บริเวณชั้น 1 บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ ที่จะให้คนภายในย่านได้จับจ่ายกันตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความคึกคักในช่วงเวลากลางวัน พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งจะเติมเต็มความครบวงจรให้กับย่านใจกลางเมืองแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี"
ทั้งนี้ราชประสงค์ได้วางเป้าหมายในอนาคตสู่การเป็นเลิศ 3 ด้าน ได้แก่ การเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร (Must Visit the Best of Bangkok) การเป็นย่านที่มีคุณภาพในการใช้ชีวิต (Smart District) และการเป็นคอมมิวนิตี้แห่งความสุข (Happy Community) ภายใต้การใช้ชีวิตการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่สะดวก ปลอดภัย ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้วันนี้ย่านราชประสงค์ถูกขนานนามว่า "ราชประสงค์ โมเดล" เป็นต้นแบบในการพัฒนาย่านอื่นๆ ตามมา โดย "ราชประสงค์ แบงคอก ดาวน์ทาวน์" เป็นโมเดลพัฒนาย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของประเทศไทยเทียบเท่าย่านชั้นนำของโลก ที่สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์เป็นผู้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการทำงานของภาครัฐ เอกชน และชุมชนควบคู่กันมาเป็นระยะเวลา 16 ปี โดยมีพันธกิจในการพัฒนาย่านราชประสงค์ในหลายมิติ ได้แก่ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสังคมและชุมชน การรวมกลุ่มผู้ประกอบการ ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน เพื่อให้บริการที่ครบครัน การส่งเสริมและสืบสานศิลปวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของย่าน การร่วมกันจัดเทศกาลประจำปีและกิจกรรมการตลาด
และในปีนี้ย่านราชประสงค์พร้อมประกาศการก้าวสู่การเป็น Smart District แห่งแรก ที่ผู้มาเยี่ยมเยือนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพที่สุดในเมืองไทย โดยได้จับมือพันธมิตรเชื่อมโยงเทคโนโลยีสู่การบริการนักท่องเที่ยวและผู้ที่ใช้ชีวิตในย่านนี้ ให้เกิดความสะดวกสบายและรวดเร็วในการจับจ่ายสินค้าและใช้บริการภายในปลายปีนี้ ได้แก่ 1) Cashless District การเป็นย่านท่องเที่ยวและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องพกเงินสด โดยนำพาย่านราชประสงค์สู่ย่านไร้เงินสดแห่งแรกในเมืองไทย และเดินหน้าโปรโมทย่านราชประสงค์ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ 2) 3D Walkable District ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างในการเดินท่องเที่ยวย่านเสมือนจริงตลอด 24 ชม. สร้างการเดินทางถึงร้านค้าง่ายขึ้น รวบรวมโปรโมชั่น สิทธิพิเศษร้านค้า และอีเว้นท์ในย่านราชประสงค์ที่น่าสนใจ 3) Smart District Development การขยายศักยภาพของย่านฯ จากการเก็บวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ได้แก่ พัฒนาพื้นที่ การจราจร ความปลอดภัย และการทำการตลาด
"R-Walk ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เชื่อมต่อที่สำคัญที่ขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายในอนาคต ซึ่งนี่คือผลจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน สิ่งนี้จะทำให้เราได้เห็นและได้สัมผัสความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ของราชประสงค์ ทุกประสบการณ์บนพื้นที่ธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ จะถูกเชื่อมต่อด้วย R-Walk และเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยเติมเต็มความครบวงจรของชีวิตคุณภาพภายในย่าน พร้อมทั้งส่งมอบไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดให้กับทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ที่จะช่วยขับเคลื่อนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก และผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป" นายชาย ศรีวิกรม์ กล่าวสรุป
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit