ผู้เข้าชมงาน Fast Auto Show Thailand 2018 ที่ ไบเทค บางนา สามารถทดลองขับขี่ผ่านโปรแกรมจีที สปอร์ต บนเครื่อง จีที เรซซิง พอด ได้ที่บูธของนิสสันหมายเลข EH106 ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึง วันที่ 1 กรกฎาคม
ทั้งนี้ การฝึกขับขี่บนเครื่อง จีที เรซซิง พอด GT Racing Pod เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันของโปรแกรม นิสสัน จีที อคาเดมี (Nissan GT Academy) เพื่อคัดเลือกเกมเมอร์ที่ดีที่สุด เพื่อได้รับโอกาสในการฝึกฝนและกลายเป็นนักแข่งมืออาชีพของทีม นิสสัน มอเตอร์ สปอร์ต หรือ นิสโม (Nissan Motor Sport - NISMO)
นิสสัน จีที-อาร์ เป็นรถซูเปอร์สปอร์ตที่โดดเด่นที่สุดของนิสสัน ได้รับการออกแบบ และผลิตอย่างประณีตจากประสบการณ์และความชำนาญมากกว่า 35 ปีของนิสสันในโลกมอเตอร์สปอร์ต จีที-อาร์ เข้าร่วมการแข่งขันรุ่นประเภทโปรดักชันคาร์ซึ่งทำความเร็วได้ดีที่สุดในโลก ซูเปอร์ สปอร์ต คาร์ 2 + 2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินคู่แบบ V6 twin-turbo ขนาด 555 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์คลัทช์คู่แบบหกจังหวะที่ให้พลังขับเคลื่อนลงสู่ทั้งสี่ล้อ
สำหรับผู้สนใจอยากสัมผัสความตื่นเต้นของรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง จีที-อาร์ ผ่านเครื่องจีที เรซซิง พอด สามารถร่วมกิจกรรมได้ที่บูธนิสสัน
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดนิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit