รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ "ลักษณ์" ยืนยัน วัคซีนที่นำเข้ามาในประเทศไทยจะต้องผ่านกระบวนการนำเข้าอย่างถูกต้อง มั่นใจ ปี 2561 วัคซีนมีคุณภาพและปริมาณเพียงพอต่อการดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้

04 May 2018
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการตอบกระทู้ถามเรื่อง "การจัดการวัคซีนพิษสุนัขบ้า" แทนนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่า การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นในปี 2535 ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการควบคุมมาอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลได้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ปี 2560 - 2563 เพื่อกำหนดกำจัดการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไป และเป็นไปตามเป้าหมายที่ประเทศไทยร่วมกับองค์การอนามัยโลก บูรณาการเพื่อกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไป ภายในปี 2563

อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่นำเข้ามาในประเทศไทยจะต้องผ่านกระบวนการนำเข้าอย่างถูกต้อง มีการตรวจสอบแหล่งที่มาและได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากกระทรวงสาธารณสุข และมีหนังสือรับรองรุ่นการผลิตตามกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองรุ่นการผลิตยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาชีววัตถุ พ.ศ. 2553 จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อย.) ซึ่งในปี 2561 สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้มีการส่งตัวอย่างวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ที่ได้ส่งมอบแล้ว ตรวจทดสอบเพื่อรับรองคุณภาพ ภายใต้โครงการการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินความเสี่ยงและเฝ้าระวังคุณภาพวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า สำหรับสัตว์ที่ใช้ในประเทศ ซึ่งยังไม่ปรากฎข้อมูลว่า วัคซีนที่จัดซื้อในปี 2561 เป็นวัคซีนไม่มีคุณภาพแต่อย่างใด อีกทั้งกรมปศุสัตว์ยังมีโครงการติดตามประเมินภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้าและคุณภาพวัคซีน ซึ่งตัวอย่างซีรั่มสุนัขทุกตัวในปี 2560 และ 2561 สุนัขที่ได้รับการฉีดวัคซีนของกรมปศุสัตว์ มีระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สามารถคุ้มโรคได้ตามเกณฑ์มาตรฐานสากล

นายลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า ในแต่ละปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ จะจัดซื้อวัคซีน จำนวน 1 ล้านโด๊ส ใช้สำหรับออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อฉีดให้กับสัตว์ที่ด้อยโอกาส สัตว์กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า และเพื่อฉีดกระตุ้นซ้ำให้กับสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่เกิดโรคและพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า นอกจากนี้ ในปี 2561 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ยังได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 311 ล้านบาท เป็นเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดซื้อวัคซีน จำนวน 10 ล้านโด๊ส ด้วย

ทั้งนี้ พบว่าในปี 2561 บริษัทผู้นำเข้าวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง จะมีการนำเข้าวัคซีน จำนวน 11,798,000 โด๊ส ซึ่งนำเข้าแล้ว (มกราคม - เมษายน 2561) จำนวน 8,678,000 โด๊ส และมีแผนจะนำเข้าเพิ่มเติม (พฤษภาคม - ธันวาคม 2561) จำนวน 3,120,000 โด๊ส ซึ่งผลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค. 61) มีผลดำเนินการได้ จำนวน 4,509,083 ตัว คิดเป็นร้อยละ 54.72 จากเป้าหมายทั้งประเทศ 8,240,000 ตัว ซึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่างจำนวนสัตว์เป้าหมายกับปริมาณวัคซีนนำเข้าภายในประเทศทั้งปี ถือว่าวัคซีนมีปริมาณเพียงพอต่อการดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้