บริษัท
ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM (
บีอีเอ็ม) เปิดเผย
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561
มีกำไรสุทธิก่อนการรีไฟแนนซ์ 848 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน146 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.8 และในไตรมาสนี้มีรายได้รวม 4,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 โดยมีปัจจัยสำคัญจากรายได้ของโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ (SOE) และรายได้ค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมถึงรายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ หากรวมค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์เงินกู้ยืมระยะยาวของโครงการ SOE แล้ว BEM มีกำไรสุทธิ 736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 34 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 ทั้งนี้ BEM ได้รีไฟแนนซ์เงินกู้ยืมระยะยาวของโครงการ SOE วงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยออกหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.05 ถึงร้อยละ 3.01 ต่อปี เพื่อปรับลดต้นทุนการเงินและบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้สามารถประหยัดดอกเบี้ยได้ประมาณ 510 - 940 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา
ด้านต้นทุนการให้บริการในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาตามรอบระยะเวลา และในส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการชำระคืนเงินต้น
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างทางเชื่อมต่อโครงการ SOE กับทางพิเศษศรีรัชด้านทิศเหนือ (มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ) อยู่ที่ร้อยละ 70 พร้อมเปิดบริการภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ โดยทางเชื่อมดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทางที่มุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะ และเชื่อมต่อทางพิเศษอุดรรัถยาเดินทางไปบางปะอิน รวมทั้งแก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่นบนถนนกำแพงเพชร 2 ได้