โดย "โอริเวอร์" ในฐานะผู้ผลิตละครควบหน้าที่ผู้กำกับฯ เปิดใจว่า "ในการทำงานทุกงานละครทุกเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ มันทำให้ผมตื่นเต้นทุกครั้ง แต่หากถามถึงความกดดัน คงมีบ้างแต่ผมอาจไม่ได้คิดว่าเป็นความกดดัน พราะการทำงานของผมคือเมื่อทุกคนได้ดูแล้วชื่นชอบในผลงานที่ผ่านมาทำให้ผมคิดและทำการบ้านหนักขึ้น และพยายามทำอย่างไรให้คนดูตื่นเต้นกับงานเรื่องใหม่ของเรา มันเลยมีอะไรที่ทุ่มสุด ๆ จนคนแซวว่าสมน้ำสมเนื้อกับชื่อของผม "เวอร์" ประกอบกับถ่ายทอดบทประพันธ์ของครู "พนมเทียน" ด้วยยิ่งทำให้ผมรู้สึกใส่อะไรที่มันธรรมดา ๆ ไม่ได้ต้องจัดเต็มสุด ๆ"
"จึงกลายเป็นโจทย์ที่ว่าผมอยากทำให้คนดูรู้สึกมันสะใจในเวลาดูหนังอย่างไร ในละครเรื่องนี้คนดูต้องได้รับความมันสะใจแบบนั้นครับ สำหรับ "ซี" ร่วมงานกันมาถึง 3 เรื่อง เนตรนาคราช,ขุนกระทิง และเรื่องล่าสุด "เล็บครุฑ" เหมือนคนคุยภาษาเดียวกันทำงานด้วยกันมาหลายปี ดังนั้นการทำงานแต่ละครั้งเราจะรู้จักขีดความต้องการว่าเราต้องการอะไรขนาดไหน พอมาทำงานด้วยกันอีกครั้งก็คลิกเลยครับ คือจะลงมือทำอะไรก็ตาม จะต้องทำให้สะใจตัวเอง เหมือนเจอคนจริตเดียวกันต่างคนต่างใส่ลงไปไม่ยั้ง ทั้งพลังกายและพลังใจด้วยความคิดคล้ายกันคือทำอะไรสักครั้งต้องทำให้เป็นตำนานเป็นประวัติศาสตร์"
ด้าน"ซี-ศิวัฒน์" เผยว่า "ส่วนผสมของงานละครเรื่องนี้คลุกเคล้าปรุงรสการทำงานกันด้วยหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณจากทุกคนจริง ๆ ครับ ขอฝากถึงแฟน ๆ ว่าขอให้ใช้ใจดูแต่อย่าคาดหวังว่าจะสนุกหรือไม่ เมื่อเราบอกว่าทำเพื่อให้สะใจตัวเราเองก็คาดหวังว่าความสะใจนั้นจะถ่ายทอดไปยังคนดูให้ได้รับพลังรับความรู้สึก ดูแล้วสะใจเหมือนพวกเรา อยากให้เห็นความบ้าพลังของ ไนน์บีเวอร์ฟิล์ม ที่จัดเต็มจริง การได้มาอยู่ในมุมเป็นคนปรุงรสเอง เห็นความทุ่มเทตั้งใจทั้งตัวเองและคนรอบข้างแล้วสัมผัสได้เลยว่ามันมากกว่าแค่ทำงานละครหนึ่งเรื่องครับ"
"สำหรับผมเองเมื่อรู้ว่าได้รับบท "ชีพ ชูชัย" และ "คมน์ สรคุปต์" ทั้งดีใจและตื่นเต้น ที่ได้รับเกียรติให้มาถ่ายทอดงานเขียน ซึ่งเคยถูกหยิบมาทำเป็นภาพยนตร์ถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกเมื่อปี 2500, 2511 และ 2525 ตามลำดับรวมระยะเวลามาถึงตอนนี้ก็ 60 กว่าปีแล้ว แต่ยังทำให้คอหนังประทับใจและถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้ หรือแม้แต่เราเองยังจดจำไม่รู้ลืม นอกจากนี้ยังถูกนำมาสร้างเป็นละครอีกครั้งเมื่อปี 2530 จนเวอร์ชั่นล่าสุดปี 2561(2018) ซึ่งผมไม่กล้าเอาไปเปรียบเทียบกับยุคสมัยเก่า นี่คือเป็น "เล็บครุฑ" ในยุค 2018 แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำขึ้นมาเพื่อไปลบล้างความชอบหรือความรักหรือสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เราแค่เอาเรื่องเดิมมาเล่าในมุมมองของคนรุ่นใหม่เท่านั้นเองครับและหวังว่า "เล็บครุฑ" เวอร์ชั่นล่าสุดนี้จะอยู่ในความทรงจำของทุก ๆ คนที่ได้ชมเหมือนในหลายเวอร์ชั่นที่ผ่านมาเช่นกันครับ"ติดตามชมละคร "เล็บครุฑ" ได้ทุกคืน วันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง 7HD
กด 35 และFacebook LIVE ทาง Official Fanpage BBTV Channel7 หรือสามารถรับชมการออกอากาศย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit