ก่อนที่คอชาเขียวในเมืองไทยจะได้ลิ้มลอง "ชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ" จังหวัดชิซึโอกะ และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเครื่องดื่มชาเกรดพรีเมียมแบรนด์ใหม่แกะกล่องเจ้านี้ได้จัดทริปพิเศษขึ้นเพื่อเผยแพร่การท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม และสินค้าขึ้นชื่อประจำจังหวัดชิซึโอกะให้คนไทยได้รู้จัก ผ่านการนำเที่ยวอย่างมีสไตล์ของสองสาวซูเปอร์สตาร์อย่าง เมคอัพอาร์ทิสต์สุดชิค "แพรี่พาย" อมตา จิตตะเสนีย์ และนางเอกสาวหน้าหวาน "แป้งโกะ" จินตนัดดา ลัมะกานนท์
ชิซึโอกะ หรือที่รู้จักกันในนาม "อีกด้านของภูเขาไฟฟูจิ" คือแหล่งรวมความยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นไว้ในหลายด้าน ทั้งเป็นเมืองที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้สูงที่สุดและเป็นต้นกำเนิดของ อ่าวน้ำลึกที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง "อ่าวซุรุกะ" นอกจากนี้ ชิซึโอกะยังเป็นจังหวัดที่สามารถผลิตชาได้มากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น โดยกว่า 40% ของใบชาที่บริโภคในประเทศญี่ปุ่นนั้นล้วนแล้วแต่ปลูกและเติบโตจากที่นี่ทั้งสิ้น
"ชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ" พัฒนาสูตรโดยกรีนทีมาสเตอร์ผู้ทรงคุณวุฒิ เซนเซ ซาโตรุ ฟูจิโมโต และผลิตจากใบชาจากแหล่งเกษตรกรรมของชิซึโอกะ 100% โดยจะคัดเฉพาะใบชาที่ได้จากการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 1 (First Flush) และการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 2 (Second Flush) ของปีเท่านั้น ซึ่งจัดว่าเป็นใบชาเกรดพรีเมี่ยมตามมาตรฐานญี่ปุ่น ให้กลิ่นหอมละมุนพิเศษจากชาต้นฤดูอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของชาจาก ชิซึโอกะ อุดมด้วยสารอาหารเข้มข้น นับเป็นอีกหนึ่งชาคุณภาพเยี่ยมที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจ
ในการเดินทางครั้งนี้ 2 สาวแพรี่พายและแป้งโกะได้รับเชิญจากสมาคมผู้ส่งออกชา เมืองชิซึโอกะเพื่อออกตามรอยชาพร้อมดื่มชิซึโอกะ พร้อมทั้งค้นหาต้นกำเนิดของใบชา รวมถึงวิถีการพัฒนาชาตามแบบฉบับของเมืองหลวงแห่งชาในประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยการไขความลับชาเขียวขวดละ 300,000 เยน (ประมาณ 1 แสนบาท) จากไร่ของ โอตะ มาซาตากะ ปราชญ์ชาวบ้านวัย 75 ปีที่ทุ่มเททั้งชีวิตในการค้นคว้าพัฒนาชาที่ดีที่สุด จนได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้เสิร์ฟชาแก่ผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ในการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลก
คุณลุงโอตะเล่าว่า "การจะชงชาที่ดีได้นั้นต้องเริ่มจากมีดินที่ดี น้ำที่ดี ภูมิอากาศที่ดี และการดูแลต้นชาที่ดีก่อน ชิซึโอกะเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งเหล่านี้ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของแหล่งน้ำ เพราะน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงต้นชาใน ชิซึโอกะนั้นมาจากการละลายของหิมะที่ปกคลุมยอดภูเขาไฟฟูจิ จึงเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สมบูรณ์ รวมถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาชิซึโอกะมีกลิ่นหอม รสชาติดี และคุณภาพสูงกว่าที่อื่น" นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ชาของคุณลุงโอตะมีราคาถึงขวดละ 1 แสนบาทนั้นเป็นเพราะคุณลุงโอตะใส่ใจเลี้ยงดูต้นชาราวกับเป็นลูกในไส้ของตนเอง โดยคุณลุงโอตะได้เผยเคล็ดลับในการปลูกชาไว้ว่า "ในเวลาที่อากาศหนาว ชาก็ต้องการพักผ่อนและความอบอุ่นเหมือนคน ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกหนาว เพราะฉะนั้นลุงจึงห่มผ้าให้ต้นชาเหมือนกัน"
หลังจากสาวแพรี่พายและแป้งโกะได้พูดคุยและสัมผัสวิถีการปลูกชาของคุณลุงโอตะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มุ่งหน้าไปพบกับ เซนเซ ซาโตรุ ฟูจิโมโต ทีมาสเตอร์ (Tea Master) ประจำเมืองชิซึโอกะผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการปรุงชามากว่า 30 ปี และล่าสุดได้ขึ้นแท่นเป็นผู้พัฒนาสูตรให้กับ "ชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ" งานนี้นอกจาก แพรี่พายและแป้งโกะจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งได้รับเกียรติสวมชุดประจำเมืองชิซึโอกะเข้าร่วมพิธีชงชาแล้ว ยังมีโอกาสได้เยี่ยมชมกระบวนการเบลนด์ใบชาตามแบบวิถีโบราณอีกด้วย
"ทุกวันจะมีชากว่า 50 ชนิด จำนวน 50,000 - 290,000 กิโลกรัม ขนส่งเข้ามายังโรงงานแห่งนี้ ด้วยความที่ตัวผมมีหน้าที่ตั้งแต่แยกใบชาทั้งหมด ด้วยการดื่มชาไม่ต่ำกว่า 100 ถ้วย ซึ่งเกิดจากการนำใบชาไปคั่วร้อน ไปจนถึงใส่น้ำร้อนเพื่อแยกรสชาติ จึงจำเป็นต้องศึกษาว่าใบชาแต่ละชนิดปลูกขึ้นที่ไหน เพื่อให้ทราบรสชาติเบื้องต้นและสามารถกำหนดสูตรการเบลนด์ชาได้" เซนเซ ฟูจิโมโต กล่าว และยังเล่าถึงการพัฒนาสูตรชาพร้อมดื่มชิซึโอกะเพิ่มเติมอีกว่า "สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการพัฒนาชาพร้อมดื่มชิซึโอกะคือการเลือกใช้ใบชา เพราะเราจะคัดเฉพาะใบชาที่มาจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกของฤดูกาล (First Flush) ซึ่งเป็นใบชาเกรดพรีเมียมที่สุดซึ่งมีสารอาหารเข้มข้นและมีรสหวานละมุนเฉพาะตัว จากนั้นใบชาดังกล่าวจะถูกนำมาผ่านกระบวนการให้ความร้อนหลายๆ ระดับ เพื่อให้เกิดรสชาติชาตามที่ต้องการ เรียกได้ว่า กว่าจะได้ใบชาตามกำหนดนั้นต้องใช้เวลาพัฒนานานกว่า 2 ปี"
"ผมต้องการนำเสนอคุณค่าของใบชาที่ดีที่สุดให้แก่คนไทยทุกคน แม้กระบวนการเบื้องหลังจะยากลำบากแต่เมื่อผลลัพธ์สำเร็จได้ด้วยดีก็รู้สึกภาคภูมิใจ หลังจากได้ดื่มชาที่อิชิตันทดลองผลิตตามสูตรแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงความเป็นชาที่สดและอร่อยเหมือนกับสูตรที่ผมส่งไปทุกประการ ความขมฝาดคอหายไป ในขณะที่รสหวานของใบชายังคงอยู่ นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ดีมาก" เซนเซ ฟูจิโมโต กล่าวเสริม
ตลอดการเดินทาง ทั้งสาวแพรี่พายและแป้งโกะต่างก็ตื่นตาตื่นใจไปกับความสวยงามของธรรมชาติใน ชิซึโอกะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไร่ชาสีเขียวชอุ่มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาตัดกับทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิที่อยู่เบื้องหลังอย่างลงตัว จนต้องบันทึกภาพการเดินทางท่องเที่ยวสวยๆ ไว้มากมาย
แพรี่พาย กล่าวถึงการเดินทางมาเยือนชิซึโอกะว่า "แพร์เดินทางมาญี่ปุ่นหลายครั้งมาก แต่คราวนี้ได้มาเที่ยวชิซึโอกะเป็นครั้งแรก ประทับใจกับความใส่ใจหลงใหลในการทำใบชาที่มีคุณภาพของคนที่นี่ เขาทุ่มเทจิตวิญญาณไปกับการทำไร่ชาที่รักและใส่ใจเหมือนลูกหลาน ไม่นึกเลยว่าเมืองนี้จะมีความสวยงามยิ่งใหญ่ และมีรายละเอียดที่น่าค้นหามากมายขนาดนี้ ในอนาคต แพร์จะกลับมาเที่ยวและดื่มชาที่นี่อีกอย่างแน่นอนค่ะ"
สำหรับสาวแป้งโกะซึ่งดูจะประทับใจกับการต้อนรับจากคณะจังหวัดเป็นพิเศษกล่าวว่า "ทางคณะจังหวัดชิซึโอกะให้การต้อนรับพวกเราอย่างน่าประทับใจ รู้สึกได้เลยว่าพวกเขาภูมิใจกับชาชิซึโอกะที่วางขายในประเทศไทย และอยากให้คนไทยได้รู้จักแหล่งที่มาและรายละเอียดในการผลิตทุกขั้นตอน ถ้าไม่ใช่ด้วยการประสานงานกับคณะจังหวัดชิซึโอกะ แป้งคงไม่มีโอกาสได้พบกับบุคคลสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังความอร่อยของชาชิซึโอกะทั้ง เซนเซ ฟูจิโมโต และคุณโอตะ มาตาซากะ การได้มาเที่ยวชิซึโอกะในครั้งนี้ทำให้แป้งได้ค้นพบว่าชิซึโอกะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนที่น่ารัก มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เคียงคู่กับไปกับวัฒนธรรมชาที่ล้ำลึกค่ะ"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะและรูปภาพจากทริปพิเศษ กรุณาเข้าไปที่ www.ichitandrink.com/shizuoka หรือ IG #shizuokathailand #ชาชิซึโอกะ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit