นายเดชา ตั้งสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ เซอร์วิส คอนโดมิเนียมหรูบนทำเลโดดเด่นที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังคงเติบโตตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP ของประเทศที่ขยายตัว 4.5% เพราะแผนการลงทุนของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยเฉพาะการลงทุนโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลายสายในพื้นที่รอบเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงทำให้อนาคตการเชื่อมโยงของกรุงเทพชั้นในกับปริมณฑลมีความสะดวกสบายขึ้น โดยเฉพาะในโซนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ธนบุรี-เจริญนคร รองรับการเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการที่จะเปิดตัวพร้อมกันในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
การเติบโตของพื้นที่นอกจากจะส่งผลบวกให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมแล้ว ในกรณีของตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลักษณะโครงการแบบมิกซ์ยูส (Mix Use) ระหว่างโรงแรมและคอนโดมิเนียมซึ่งมีบริการมาตรฐานระดับห้าดาวขึ้นไป โดยบนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เช่นเดียวกัน เพราะกลุ่มลูกค้าในตลาดนี้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ และชาวต่างชาติ การลงทุนที่อยู่อาศัยในตลาดคอนโดฯ ลักซ์ชัวร์รี่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงยิ่งมีความน่าสนใจ จากมูลค่าของสินทรัพย์ที่ราคาปรับสูงขึ้นในทุกๆปี
"โครงการต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ก่อสร้างกันอยู่ในหลายๆแห่ง กำลังจะแล้วเสร็จ ในอีก 1-2 ปี เราจะเห็นภาพที่ชัดเจน ซึ่งโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้จะสนับสนุนศักยภาพของทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นทำเลที่งดงามและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ซิกเนเจอร์) ในด้านอารยธรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งสามารถสัมผัสได้จากไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ชัดเจนและโดดเด่น โดยปัจจัยดังกล่าวนี้จะเป็นสิ่งดึงดูดกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้าพื้นที่ และสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้คึกคักอย่างมีนัยยะอีกด้วย"
นายเดชา กล่าวว่า สำหรับโครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ สามารถปิดยอดขายล่าสุด ได้แล้วกว่า 90% โดยมีห้องที่ยังเหลือ 26 ยูนิต มูลค่า 785 ล้านบาท เป็นห้องเพนท์เฮาส์ 6 ห้อง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มั่นใจว่าห้องเพนท์เฮาส์ที่เหลือจะปิดการขายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ เนื่องจาก บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ที่มุ่งเน้นการบริการลูกค้าอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และสร้างรสสัมผัสการอยู่อาศัยให้กับลูกค้าในลักษณะของความเป็น Exclusive รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้เร็วขึ้น อีกทั้งได้ขยายตลาดจับกลุ่มนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยล่าสุด ได้แต่งตั้งบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทบริหารการตลาดและการขาย
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังมีโอกาสการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และหากพิจารณาในเซกเมนต์ของสินค้าประเภทคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่และซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวน 17,200 ยูนิต หรือคิดเป็น 3% ของตลาดคอนโดมิเนียมทั้งหมดในกรุงทพฯ พบว่า เป็นคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำจำนวน 2,600 ยูนิต หรือคิดเป็น 15% ของคอนโดในกลุ่มลักซ์ชัวรี่และซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มีอัตราการเติบโตของราคาพื้นที่ต่อตารางเมตรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลเมื่อปี 2555 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 80% ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 246,000 บาท ต่อตารางเมตร ดังนั้น มองว่าอัตราการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวร์รี่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง 1-2 ปี จะขยายได้ตัวสูงถึง 20%
ส่วนโครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่คุ้มค่าต่อการที่จะลงทุนไว้เพื่ออยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อทั้งชาวไทย และนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีไลฟ์สไตล์และมีความนิยมที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ ซึ่งมีความสวย สงบ เป็นส่วนตัว เพราะนอกเหนือจากความโดดเด่นด้านทำเลที่มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามที่สุดแล้ว แม่น้ำเรสซิเดนท์ ได้ออกแบบอาคารที่ทำให้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทุกห้อง ทั้งยังมอบบริการระดับเดียวกับโรงแรมห้าดาวให้กับลูกค้าด้วย โดยเฉพาะห้องเพนท์เฮาส์ของแม่น้ำเรสซิเดนท์ ที่ตกแต่งพร้อมอยู่ ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้เลย โดยมีข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ดีบนถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นราคาที่มีความคุ้มค่ามาก
สำหรับห้องเพนท์เฮาส์ โครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ มีพื้นที่ใช้สอย 270 – 280 ตารางเมตร เสนอขายในราคาปัจจุบันที่ 60 - 80 ล้านบาท สอบถามข้อมูลหรือติดต่อชมห้องจริง โทร. 089 891 9253, 062 796 0101
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit