10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“พู่กันจีน”ภูมิปัญญานับพันปีจากแดนมังกร

23 May 2018
ในยุคที่มหาอำนาจของโลกตะวันออกอย่างจีนผงาดขึ้นมามีบทบาทสำคัญในเวทีโลกภาษาจีนกลายเป็นภาษาแถวหน้าที่ใครๆก็อยากเรียนรู้ไว้ติดตัวแน่นอนว่าเมื่อพูดภาษาจีนต้องนึกถึงตัวอักษรจีนและศิลปะการเขียนพู่กันจีนที่มีอายุนับพันปีมรดกอันล้ำค่าที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาได้อย่างน่าชื่นชม
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“พู่กันจีน”ภูมิปัญญานับพันปีจากแดนมังกร

เพื่อให้คนไทยได้อิ่มเอมและเรียนรู้กับศิลปะพู่กันจีนอันทรงคุณค่าอย่างได้อรรถรสเฉินโป๋เฉียนหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนมี 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับศิลปะการใช้พู่กันจีนมาบอกต่อ

1. การเขียนพู่กันจีนไม่ใช่มีอายุแค่ร้อยปีแต่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ 5,000 ปีก่อน โดยเริ่มแรกเขียนเป็นอักษรภาพจากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาเป็นตัวอักษร

2. อักษรจีนยุคแรกเริ่มนั้นมีการใช้ที่แตกต่างกันไปตามฮ่องเต้ในแต่ละแคว้นตราบจนถึงยุคของจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รวบรวมแผ่นดินจีนเข้าไว้ด้วยกันจึงได้มีการปฏิรูปตัวอักษรครั้งใหญ่ด้วยการสร้างมาตรฐานรูปแบบตัวอักษรให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ

3. พู่กันจีน ถือเป็นศิลปะขั้นสูงหนึ่งในสี่อย่างของชนชาติจีน ประกอบด้วยคือ การเขียนพู่กันจีน การวาดภาพ การบรรเลงเครื่องสาย และการเล่นหมากรุกจีน

4. อักษรจีนยุคแรกใช้วิธีแกะสลักหรือจารลงบนกระดองเต่า หรือกระดูกสัตว์โดยใช้มีดแกะสลักต่อมาจึงพัฒนามาใช้พู่กันกระทั่งเริ่มมีการใช้ดินสอและปากกาความนิยมในการใช้พู่กันจึงลดลงปัจจุบันยังมีสอนในโรงเรียนบางแห่งในจีนที่ต้องการรักษาศิลปะชั้นสูงนี้ไว้

5. ศิลปะการเขียนพู่กันจีนเป็นการสร้างลายเส้นและเค้าโครงที่เรียบง่าย แต่กลับสามารถสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าของวัฒนธรรมและความคิดอันซับซ้อนและหลากหลายของผู้เขียน

6. การเขียนอักษรจีนให้สวยต้องอาศัยการฝึกปรือบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญเทคนิคง่ายๆ คือแนะนำให้ลงน้ำหนักตอนเริ่มเขียนให้หนักเพื่อให้ตัวอักษรดูมีพลังจากนั้นผ่อนน้ำหนักลงและค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักอีกครั้งตอนท้าย

7. เทคนิคการจับพู่กันจีนแบบออรจินัล คือวางนิ้วหัวแม่มือตรงด้านซ้ายของพู่กันส่วนนิ้วชี้และนิ้วกลางวางไว้ตรงด้านขวา ส่วนนิ้วนางและนิ้วก้อยอยู่ด้านล่างเพื่อช่วยประคองพู่กัน ที่สำคัญพยายามวางตำแหน่งนิ้วให้อยู่ตรงช่วงกลางด้าม เพื่อให้พู่กันอยู่ในแนวตั้งกับกระดาษ

8. อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเขียนพู่กันจีน ประกอบด้วย 4 อย่างเรียกว่า "ปี่ม่อจื่อเยี่ยน" "ปี่" หมายถึงพู่กัน "ม่อ" หมายถึงหมึกสีดำ "จื่อ" หมายถึงกระดาษ ข้อควรรู้คือกระดาษที่ใช้ในการเขียนพู่กันจีนไม่ใช่กระดาษทั่วไปที่ใช้กันแต่ต้องมีคุณสมบัติกันน้ำเพื่อไม่ให้หมึกซึมส่วน "เยี่ยน" คือที่ฝนหมึกวิธีการฝนหมึก คือหยดน้ำเปล่าใส่ลงในถาดฝนหมึก และใช้แท่งหมึกฝนจนมีความเข้มข้นเป็นน้ำหมึกสีดำ ไม่ควรใส่น้ำมากเพราะน้ำหมึกจะใสไม่ดำสนิท

9. การเขียนด้วยพู่กันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เบื้องหลังความงามที่ซ่อนอยู่ในตัวอักษรทำให้ผู้ชมสัมผัสและดื่มด่ำกับความงามอันเรียบง่ายที่ไม่ต่างกับกำลังชมงานศิลปะที่ล้ำค่า

10. ใครที่สนใจอยากเรียนรู้การเขียนพู่กันจีนไม่ต้องไปหาคอร์สหรือโรงเรียนสอนภาษาให้เหนื่อยแค่แวะมาที่ "ล้ง 1919" สถานที่สุดฮิปที่ไม่ได้เป็นเพียงท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์แต่ยังพร้อมให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์ใหม่กับ LHONG Exprerience (ล้งเอ็กซ์พรีเรียนซ์) กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนในมุมมองใหม่พร้อมศึกษาภูมิปัญญาจีนจาก e-book ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทาง www.lhongwisdom.com

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“พู่กันจีน”ภูมิปัญญานับพันปีจากแดนมังกร 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“พู่กันจีน”ภูมิปัญญานับพันปีจากแดนมังกร 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“พู่กันจีน”ภูมิปัญญานับพันปีจากแดนมังกร