กรมส่งเสริมสหกรณ์แนะสหกรณ์การเกษตรหันกลับมาดูแลส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้สมาชิก

24 May 2018
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ห่วงสมาชิกสหกรณ์การเกษตรยังมีหนี้สินจำนวนมาก แนะสหกรณ์หันกลับไปดูทุกข์สุขของเกษตรกรที่เป็นสมาชิก ส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้มั่นคง เน้นการแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เตรียมเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 1,000 ล้านบาทให้สหกรณ์นำไปปล่อยกู้แก่สมาชิกอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อใช้ลงทุนประกอบอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ในระยะสั้น หวังผลักดันสหกรณ์เป็นตัวกลางในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง เพื่อจะได้ทำหน้าที่ในการดูแลส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกร ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์คาดหวังว่าในอนาคต สหกรณ์จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและทำหน้าที่แทนภาครัฐในการเสริมสร้างเศรษฐกิจระดับชุมชน โดยใช้สหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ที่ต้องการจะช่วยส่งเสริมหรือให้การช่วยเหลือแก่ชาวบ้านได้

"สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้คือ เกษตรกรส่วนใหญ่รวมถึงสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรยังมีหนี้สินอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกันสหกรณ์เองก็ปรับโครงสร้างหนี้ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายหนี้สินก็พอกพูน จึงอยากขอให้สหกรณ์หันกลับมาดูความเป็นอยู่ของสมาชิกด้วยว่ามีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงหรือไม่ การดำเนินงานของสหกรณ์ควรมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการและคำนึงถึงประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก เพราะสมาชิกคือหัวใจสำคัญต่อความเจริญก้าวหน้าของสหกรณ์ อยากเห็นสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการดูแลสมาชิก เพื่อให้สมาชิกอยู่ดีกินดี" นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 เป็นเงินกู้ที่มีต้นทุนไม่สูง เพื่อให้สหกรณ์เสนอโครงการพิเศษขอกู้สำหรับไปพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิก โดยสหกรณ์สามารถนำเงินกู้จากกพส.ไปให้สมาชิกกู้ยืมต่อสำหรับลงทุนประกอบอาชีพเสริม ที่จะช่วยสร้างรายได้ในระยะเวลาอันสั้น และอยากให้สหกรณ์จัดสรรเงินส่วนหนึ่งเพื่อไว้สำหรับการรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและจัดหาตลาดมารองรับด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความต้องการของสหกรณ์ ในแต่ละจังหวัด เพื่อพิจารณาจัดสรรให้ตามความต้องการ และคาดหวังว่าการดำเนินโครงการนี้จะเกิดประโยชน์สมาชิกสหกรณ์ ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย

นอกจากนี้ กรมฯยังได้รับงบประมาณกลางปีจากรัฐบาลเพื่อนำไปอุดหนุนแก่สหกรณ์วงเงิน 1,768.339 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์นำไปสร้างอุปกรณ์การตลาด เช่น ฉาง ลานตาก โกดัง สำหรับรวบรวมและชะลอผลผลิตการเกษตร รวมถึงนำไปจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อการแปรรูปสินค้า 4 ชนิด คือ ยางพารา ข้าว ข้าวโพด และ มันสำปะหลัง เนื่องจากเป็นพืชหลักและมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ซึ่งการเพิ่มศักยภาพด้านการรวบรวมผลผลิตและการแปรรูปให้กับสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์นำอุปกรณ์การตลาดเหล่านี้มาใช้ในการรองรับผลผลิตให้กับสมาชิก และคาดหวังว่าสหกรณ์จะใช้งบประมาณที่ได้รับการอุดหนุนนี้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ในการรวบรวมผลผลิตการเกษตรจากสมาชิกและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป