โดยเที่ยวบินลำดังกล่าวประกอบด้วยลูกเรือจำนวน 10 คน ได้แก่ ลูกเรืออาวุโส แฮร์รี่ แบลค (Harry Blake), ลูกเรือที่ชื่อ แฮร์รี (Harry's) จำนวน 2 คน, เมแกน (Megan's) 7 คน และ เมแกน (Meghan) จำนวน 1 คน ซึ่งจะทำการบินจากสนามบินฮีทโธรว์ ลอนดอน เวลา 13.30 น. หนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้ทำพิธีปฏิญาณตนเพื่อเสกสมรส ณ ปราสาทวินด์เซอร์ เป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้ชื่อว่า แฮร์รี่ หรือ เมแกน พร้อมเพื่อนที่ร่วมเดินทาง ที่มีเที่ยวบินโดยสารออกจากสนามบินฮีทโธรว์ เทอมินอล 5 ในวันดังกล่าว (19 พ.ค.) ยังจะได้รับสิทธิพิเศษสามารถเข้าใช้บริการห้องรับรองสุดหรูของทางสายการบิน (First Lounge) ตลอดจนช่องทางเดินสุดเอ็กครูซีฟ (Exclusive FirstWing) ของทางสายการบินได้ในวันดังกล่าวอีกด้วย
พร้อมกันนี้ผู้โดยสารที่เดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ทุกเที่ยวบินในวันที่ 19 พ.ค. ยังจะได้รับเค้กเลมอนและเอลเดอร์ฟาวเวอร์ ซึ่งเป็นเค้กแบบเดียวกับที่ใช้ในงานพิธีเสกสมรสอีกด้วย และพิเศษสุดๆสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากฮีทโธรว์ไปยังโตรอนโต ประเทศแคนนาดา ในวันดังกล่าว จะได้ร่วมเฉลิมฉลองพิธีเสกสมรสแห่งราชวงศ์อังกฤษไปพร้อมกับไวน์ชั้นเลิศอย่าง Castelnau Blanc du Blanc ที่ทางบริติชแอร์เวย์ได้เตรียมมามอบให้กับผู้โดยสารท่านละ 1 ขวด พร้อมกับเค้กเลมอนแสนเลิศรสที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างพิถีพิถันในวันสำคัญดังกล่าว
คาโรไลน่า มาติโนลิ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์สายการบินบริติชแอร์เวย์ กล่าว "เรารู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างมากสำหรับงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นทางสายการบินจึงได้เพิ่มบริการสุดพิเศษให้กับผู้โดยสารที่มีการเดินทางโดยสายการบินในวันดังกล่าวเพื่อให้ทุกๆคนได้ร่วมเฉลิมฉลองไปด้วยกันในโอกาสพิเศษนี้"
เมแกน ฮอร์สเลย์ ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าสายการบินบริติชแอร์เวย์ ลูกเรือผู้ที่จะทำการต้อนรับผู้โดยสารบนเที่ยวบินพิเศษกล่าวว่า "ฉันเคยร่วมงานกันลูกเรือที่ชื่อเมแกนอยู่สองครั้ง แต่ไม่เคยร่วมงานกับลูกเรือที่มีชื่อเดียวกันถึงเจ็ดคนมาก่อน ซึ่งนี่ก็นับว่าเป็นโอกาสพิเศษมากจริงๆที่เราจะได้ร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนที่พบรักกันที่เมืองโตรอนโต ไปพร้อมๆกับผู้โดยสารที่เดินทางในวันนั้น"
และตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ผู้โดยสารเที่ยวบินระยะยาวของสายการบินบริติชแอร์เวย์ ยังสามารถรับชม Toronto-shot TV series Suit และสารคดีรักโรแมนติก ณ ปราสาทวินด์เซอร์ของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ได้ตลอดทั้งเดือนอีกด้วย ทั้งนี้ผู้โดยสารที่พลาดการถ่ายทอดสดพิธีเสกสมรสยังสามารถรับชมพิธีได้บนเครื่องบิน ซึ่งจะมีการนำภาพไฮไลท์มาเผยแพร่บนเที่ยวบินในวันถัดไป
เมื่อต้นเดือนนี้ทางสายการบินบริติชแอร์เวย์ ได้ทำการเปิดตัวบริการใหม่ เที่ยวบินไปยังโตรอนโต ประเทศแคนนาดา 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จาก เมืองแกตวิค ลอนดอน(Gatwick) ไปยังเมืองโตรอนโต แคนนาดา (Toronto) ขาเข้าเริ่มต้นเพียง 446 ปอนด์ เท่านั้น!!! โดยผู้โดยยังสามารถใช้ไมล์ Avios เป็นส่วนลดตั๋วเครื่องบินและสะสมคะแนนได้ตามปกติ (ตามเงื่อนไขของบริษัท)
สายการบินบริติชแอร์เวย์ได้ทำการลงทุนกว่า 4.5 พันล้านปอนด์เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางอันแสนพิเศษและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทุกระดับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
http://mediacentre.britishairways.com/pressrelease/details/86/2018-247/9749?ref=HeroStory
เกี่ยวกับสายการบินบริติชแอร์เวย์
ปัจจุบันสายการบินบริติชแอร์เวย์มีเครือข่ายการบินทั่วโลกครอบคลุมกว่า 200 เส้นทาง สายการบิน บริติช แอร์เวย์ ได้เปิดเส้นทางการบินสู่ประเทศไทยมาเป็นเวลา 80 ปี ปัจจุบันมีเที่ยวบินในเส้นทาง ลอนดอน ฮีทโทรว์ และ กรุงเทพฯ ถึง 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และยังเป็นสายการบินเดียวที่เปิดเส้นทางการบินแบบ non-stop ด้วยเครื่องบิน Airbus A380 ระหว่างฮ่องกงและลอนดอนอีกด้วย
บริติชแอร์เวย์ บินตรงสู่อาคารผู้โดยสาร 5 อันงดงามของสนามบินฮีทโทรว์ กรุงลอนดอน โดยอาคารผู้โดยสาร 5 นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้โดยสารของสายการบินบริติชแอร์เวย์และสายการบินไอบีเรีย แอร์ไลน์โดยเฉพาะ ในปี 2558 สนามบินฮีทโทรว์นี้ได้รับรางวัลให้เป็น อาคารผู้โดยสารที่ดีที่สุดแห่งการช็อปปิ้ง อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นอาคารผู้โดยสารที่ดีที่สุด (T2 และ T5) และได้รางวัลหนึ่งในสิบสนามบินที่ดีที่สุดจาก Skytrax .ในปี 2561
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 สายการบิน Oneworld Alliance ซึ่งเป็นสายการบินต้นกำเนิดของบริติชแอร์เวย์ ได้รับการขนานนามให้เป็นกลุ่มสายการบินที่ดีที่สุดโดย Business Traveller Cellars in the Sky 2560
ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2555 สายการบินบริติชแอร์เวย์ได้รับรางวัล "สายการบินที่ดีที่สุด" "สายการบินสำหรับการเดินทางระยะสั้นที่ดีที่สุด" "ชั้นธุรกิจที่ดีที่สุด" และ "โปรแกรมสำหรับนักเดินทางประจำที่ยอดเยี่ยมที่สุด" จากนิตยสาร Business Traveller ซึ่งสำรวจความเห็นของผู้อ่านในอังกฤษ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit