นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้ง บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (CoinAsset) กล่าวถึงพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 และพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฉบับที่ 19 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ว่า บจก. คอยน์ แอสเซท (CoinAsset) ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล พร้อมปฏิบัติตาม พ.ร.ก. ควบคุมการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกมา ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ผลักดันให้ พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าวมีความชัดเจน โดยมองว่า การมีหน่วยงานเข้ามากำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อระบบการเงินของประเทศในระยะยาว
สำหรับสาระสำคัญของพระราชกำหนด การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 แบ่งเป็น การกำหนดนิยามให้ เงินดิจิทัล และโทเคนดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล โดยแบ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 2. นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 3. ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล และ 4. ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งธุรกิจทั้ง 4 ประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล คือ ตัวกลางในการซื้อขาย เปรียบเสมือนกระดานเทรด
2. นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล คือ ตัวแทนนักลงทุนในการซื้อขาย ซึ่งเปรียบเสมือนนายหน้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
3. ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล คือ เจ้ามือในการซื้อขายเอง เปรียบเสมือนร้านขายทองคำ ที่เป็นเจ้ามือซื้อขายเอง และ
4. ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล คือ ผู้ให้บริการจัดทำไอซีโอ เปรียบเสมือนผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงิน
ทั้งนี้ กฎหมายได้ให้อำนาจสำนักงาน ก.ล.ต. ในการออกกฎระเบียบ เพื่อกำกับดูแลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งสามารถยกเลิกใบอนุญาตดังกล่าวได้ด้วย โดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด นอกจากนี้ ยังให้อำนาจสำนักงาน ก.ล.ต. ในการตรวจสอบและควบคุม เช่น เข้าไปในสถานประกอบธุรกิจ ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน รวมถึงสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐานใด ๆ
ด้านผู้ให้บริการจัดทำไอซีโอ (ICO) ต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. และเสนอขายต่อผู้ลงทุนตามประเภทและเงื่อนไขที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดเท่านั้นเช่นกัน โดยการเสนอขายไอซีโอต้องทำการผ่านทางผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. นอกจากนี้ ต้องรายงานผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของผู้จัดทำไอซีโอ ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังได้มีการกำหนดโทษทางแพ่งและทางอาญาสำหรับ ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด รวมถึงกำหนดโทษทางอาญาสำหรับการกระทำที่คล้ายกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์ เช่น การใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) การปั่นราคาเหรียญ (Market Manipulation) รวมถึงการปล่อยข่าวลือหรือกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ (Misstatement)
ทั้งนี้ พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฉบับที่ 19 ที่ประกาศออกมานั้น ได้กำหนดให้ผลประโยชน์ที่ได้จากการถือครองโทเคนและกำไรจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี อีกทั้ง กำหนดให้ผู้จ่ายเงิน ได้ให้แก่ผู้ถือครองโทเคนและผู้จ่ายเงินเพื่อรับโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 แล้วนำส่งให้แก่กรมสรรพากร
นายศิวนัส กล่าวทิ้งท้าย "ถือว่า พ.ร.ก. ที่ประกาศออกมามีความชัดเจนในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งธุรกิจสินค้าและบริการ เครื่องดื่ม อุปโภค บริโภค หรือแม้แต่หน่วยงาน สถาบันทางการเงิน ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในการผลักกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศ โดยยกตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลังจากมีการออกกฎหมายควบคุมที่ชัดเจนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ทำให้ประชาชนสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัล แทนการใช้เงินสด เพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ และภาคเอกชนก็มีความยินดี พร้อมรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น จากนี้ก็คงต้องติดตามรายละเอียดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่สำนักงาน ก.ล.ต. จะออกมาต่อไป"
เกี่ยวกับบริษัทคอยน์ แอสเซท จำกัด
บริษัทคอยน์ แอสเซท จำกัด ก่อตั้งโดยนายศิวนัส ยามดี และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 3 ท่าน ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Exchange) ที่มีพันธมิตรมากหลายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเงินจดทะเบียนที่ 30 ล้านบาท มุ่งหวังให้บริการที่เป็นมิตรแก่ผู้ที่สนใจในธุรกิจคริปโต ภายใต้โมเดล "ศูนย์กลางซื้อ / ขาย / แลกเปลี่ยน Cryptocurrencyที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุดในอาเซียน"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่ www.coinasset.co.th และ www.coinasset.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit