"หลังจากรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นในครั้งนี้แล้ว จะรวบรวมความเห็นที่เป็นประโยชน์นำไปประกอบกับร่างกฎหมาย ก่อนจะเสนอไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์กับสหกรณ์ 10,000 กว่าแห่ง ที่มีสมาชิก 12 ล้านกว่าคน รวมมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท" ดร.วิวัฒน์ กล่าว
ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดประชุมดังกล่าว มีเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 ให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และเพื่อรับฟังความเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้เสียกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งตัวแทนสหกรณ์และชุมชุมสหกรณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดประชุมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา และได้รวบรวมรายละเอียดก่อนจัดทำเป็นร่างกฎหมายเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการไปเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ประชุมครม.ได้ส่งมอบกฎหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการบางส่วนในข้อกฎหมาย จึงมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทำหนังสือแจ้งมายังกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายดังกล่าวอีกครั้ง
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีการยกร่างเพื่อแก้ไข จะส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความสะดวก และคล่องตัว เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารกิจการสหกรณ์ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในร่างกฎหมายยังมีการแก้ไขเรื่องของอำนาจ ของนายทะเบียนสหกรณ์ รวมไปถึงการอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งจากเดิมต้องเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ แต่ในกฎหมายฉบับใหม่จะมีการตั้งคณะทำงานย่อยขึ้นมาพิจารณาเพื่อให้เกิดความรวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อสหกรณ์มากขึ้นด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit