สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในงานจะมีหลายหลาย โดยในส่วนของนิทรรศการจะถูกแบ่งออกเป็นโซน 3 โซน ส่วนแรกเป็นโซนผลงานของกรมวิชาการเกษตรที่ดำเนินการภายใต้นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น โครงการทับเบิกโมเดล โครงการส่งเสริมการปลูกพืชตระกูลถั่วประชารัฐ เครื่องหยอดปุ๋ยสั่งตัดแบบสมองกล โดรนเพื่อการเกษตรอินทรีย์ ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช 16 ชนิด และการแก้ปัญหาภูเขาหัวโล้นบ้านอุ้มเปี้ยม ส่วนที่ 2 โซนผลงานด้านนวัตกรรมของกรมวิชาการเกษตร เช่น พืชไร่พันธุ์ใหม่ พืชสวนพันธุ์ดี การผลิตแครื่องสำอางจากสมุนไพร ส้มพันธุ์ไร้เมล็ดแพร่ 1 เครื่องปั่นและกรอฝ้ายแบบติดมอเตอร์ขนาดเล็กระดับชุมชน และเครื่องคว้านเมล็ดเงาะสมองกล และส่วนที่ 3 โซนผลงานวิชาการและผลงานที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น ปุ๋ยชีวภาพเพื่อการผลิตพืช ศัตรูพืชดื้อยาแก้ปัญหาด้วย IPM ทุเรียนลูกผสมของกรมวิชาการเกษตร การผลิตหัวพันธุ์ขมิ้นชันโดยไม่ใช้ดิน ตีนฮุ้งดอยพืชสมุนไพรใกล้สูญพันธุ์ และพันธุ์พืชที่ได้รับการคุ้มครองเป็นพันธุ์ใหม่
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า นอกจากในส่วนของนิทรรศการแล้วกรมวิชาการเกษตรยังเปิด พิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพให้ได้ชม นิทรรศการพรรณไม้ในพระนาม และตัวอย่างพันธุ์พืชที่ได้รับการคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่ และพิพิธภัณฑ์แมลง ชมแมลงหายากตัวจริง เช่น กว่างดาวเกสทรอยด์ ด้วงคีมกระทิงดำ ตั๊กแตนใบไม้ ตั๊กแตนกิ่งไม้ยักษ์ออสเตรเลีย และบึ้งน้ำเงิน กิจกรรมการสาธิตหลากหลายสาขาซึ่งสามารถนำไปประกอบกเป็นอาชีพเสริมได้ เช่น การผลิตสบู่และโลชั่นผสมสารสกัดขมิ้นชัน การเพาะถั่วงอกคอนโด การผลิตเห็ดเพาะถุง และการแปรรูปขมิ้นชัน รวมทั้งยังมีการจัดเสวนาภายในงาน เช่น รู้จริงเรื่องพันธุ์ทุเรียน เกษตรอินทรีย์เทคนิคการผสมพันธุ์พืชสวน รู้รอบด้านสมุนไพรบำรุงกำลัง และไขปัญหาน้ำมันมะพร้าวกับสุขภาพ
กรมวิชาการเกษตรได้นำผลผลิตและผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากงานวิจัยของหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรทั่วประเทศมาให้ได้ชมและชิม รวมทั้งมีการจำหน่ายพันธุ์ไม้ต่างๆ และสินค้าเกษตรจากกลุ่มเกษตรกร สมาคม และผู้ประกอบการจำนวนมาก นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมชมงานยังจะได้รับแจกพันธุ์ไม้ เช่น มังคุด มะนาว มะพร้าว ส้มไร้เมล็ด และปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย และสารชีวภัณฑ์ รวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืช ตลอดระยะเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่ 25 – 28 พฤษภาคม 2561 นี้ ณ บริเวณโดยรอบกรมวิชาการเกษตร