นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า "จากการตรวจแนะนำผู้ประกอบการสำนักงานบัญชีพบว่า สำนักงานบัญชีส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีอากร อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสำนักงานบัญชีบางแห่งที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีอากร ซึ่งอาจจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จึงต้องชี้แจงและทำความเข้าใจให้สำนักงานบัญชีทราบถึงความเสี่ยงของตน เมื่อสำนักงานบัญชีได้ปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีอากรได้อย่างถูกต้อง ก็จะแนะนำผู้ประกอบการซึ่งเป็นลูกค้าของตนให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเช่นกัน ดังนั้น การสัมมนาในครั้งนี้จึงมุ่งพัฒนาและเพิ่มบทบาททางธุรกิจของสำนักงานบัญชีให้มีความสำคัญและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันโลกธุรกิจมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงิน รูปแบบการบันทึกรายการทางบัญชีมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การจัดทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชีมีความสะดวกและมีความโปร่งใส ยิ่งขึ้น ดังนั้น สำนักงานบัญชีจะต้องปรับตัวเข้าสู่สังคมยุค Thailand 4.0 ไปพร้อมกับกรมสรรพากร และผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาตนเองให้สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ/ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีอากร ให้กับผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าได้ อันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตนเองได้ในอนาคต"
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า "กรมสรรพากรพร้อมที่จะสนับสนุนและพัฒนาสำนักงานบัญชีสู่การเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ/ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีอากร ด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ และระบบสารสนเทศที่มีความทันสมัย และในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการยื่นงบการเงิน จากผู้ประกอบการไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร เป็นการลดต้นทุนของผู้ประกอบการ และพร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งพร้อมสนับสนุนการทำบัญชีเดียว เพื่อยกระดับมาตรฐานในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ เพื่อลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จึงขอเชิญชวนสำนักงานบัญชีทุกแห่ง ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความถูกต้องไปพร้อมกัน"
สำหรับสำนักงานบัญชีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองมาตรฐานการสอบบัญชีภาษีอากร โทร. 02 272 9173-4 หรือที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร. 1161
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit