บีจีเอฟ หรือ บริษัท บีจี โฟลต กล๊าส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระจกแผ่น ในเครือ
บางกอกกล๊าส (บีจี) เปิดตัวโรงงานผลิตกระจกแห่งแรก บีจีเอฟ
กบินทร์บุรีกล๊าส ณ อำเภอศรีมหาโพธิ
จังหวัดปราจีนบุรี บนเนื้อที่ 150 ไร่ มีกำลังการผลิต 2.19 แสนตันต่อปี งบประมาณก่อสร้างโรงงาน 5 พันล้านบาท เตรียมขยายธุรกิจ รองรับความต้องการทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียนนายสมพร เต็มอุดมสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานผลิต บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "บีจีเอฟ เป็นแบรนด์กระจกของคนไทยรายเดียวในปัจจุบัน โดยเราเริ่มต้นดำเนินธุรกิจกระจกเมื่อปี พ.ศ. 2557 จุดเริ่มต้นมาจากวิสัยทัศน์ของคุณปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ ที่ต้องการให้บีจีเป็นผู้นำด้านธุรกิจแก้วครบวงจร จึงเริ่มมีการจัดจำหน่ายกระจกจากต่างประเทศ จนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้ขยายมาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระจกภายใต้แบรนด์บีจีเอฟ ซึ่งโรงงานผลิตกระจกบีจีเอฟ กบินทร์บุรีกล๊าสแห่งนี้ เป็นโรงงานผลิตแห่งแรกของเรา มีกำลังการผลิตถึง 2.19 แสนตันต่อปี งบประมาณการก่อสร้างมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ความน่าสนใจของโรงงานแห่งนี้คือการที่เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง บริษัท กลาส เทรอช โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระจกรายใหญ่ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีการนำทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัย ยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งบีจีเอฟเป็นรายแรกในประเทศที่นำเทคโนโลยีการผลิตกระจกเคลือบแบบ Hard coat มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีการตรวจสอบคุณภาพของกระจก ผ่านเครื่องตรวจสอบความหนา และสแกนหาสิ่งปนเปื้อนในกระจกก่อนส่งไปถึงลูกค้า ลูกค้าจึงวางใจในคุณภาพ และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์"
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมกระจกของประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 5-7% จากมูลค่าตลาดรวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีสัดส่วนการนำเข้า 20% หรือ 2.4 พันล้านบาท จะเห็นได้ชัดจากจำนวนการผลิตกระจกแผ่นในประเทศที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด บีจีเอฟจึงเข้ามาเป็นผู้ผลิตรายใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย ประกอบกับการวางกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตกระจกรายใหญ่ของไทยและภูมิภาคอาเซียน
นายโชคชัย ศรีสุนทรพาณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปร่วม บริษัท บีจี โฟลต กล๊าส จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปีนี้บีจีเอฟจะเริ่มผลิตกระจกแผ่นใสออกสู่ตลาดก่อนในช่วงแรก และด้วยจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการเคลือบผิวด้วยไอเคมี หรือ Online CVD Hard Coating และระบบตรวจสอบคุณภาพโดยชุดกล้องตรวจสอบ (Float Scan Plate) รายแรกของประเทศ และยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เราได้ร่วมพัฒนากับ บจก. กลาส เทรอช เพื่อให้โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตกระจกได้เต็มประสิทธิภาพ และต่อยอดไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ กระจกเทมเปอร์ กระจกลามิเนต และกระจกประหยัดพลังงาน BGF Natural Cool เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างครบวงจร" นายโชคชัย กล่าวสรุป
โรงงานผลิตกระจกบีจีเอฟ กบินทร์บุรีกล๊าส ถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทแม่อย่างบีจี ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์แก้วให้ครอบคลุมทุกวิถีการดำเนินชีวิต พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจแก้วครบวงจร หรือ Total Glass Solutions รองรับการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในอนาคต