นายปรมินทร์ ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกิจกรรม Thailand Fastest Pizza Maker 2017 ว่า "กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการจัดกิจกรรมการแข่งขันทำพิซซ่าของพนักงานภายในองค์กร โดยจะเน้นในเรื่องคุณภาพและความรวดเร็ว เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เน้นคุณภาพของพิซซ่า และการบริการที่รวดเร็ว โดยผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งในระดับภูมิภาคที่ประเทศญี่ปุ่น และระดับโลกที่อเมริกาต่อไป"
สำหรับการแข่งขัน Fastest Pizza Maker ถือเป็นการแข่งขันภายในองค์กรของโดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) ที่จะมีจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยแต่ละประเทศจะคัดเลือกตัวแทนพนักงานที่สามารถทำพิซซ่าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำมาแข่งในระดับภูมิภาค และระดับโลกต่อไป ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่โดมิโน่ส์ พิซซ่า ประเทศไทยได้จัดการแข่งขันหาตัวแทนเพื่อเข้าแข่งขันชิงแชมป์ระดับโลก
ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้นอกจากจะสะท้อนว่าพนักงานโดมิโน่ส์ พิซซ่า เป็นผู้ทำพิซซ่าที่เร็วที่สุด มีคุณภาพ และจะสามารถแสดงให้ผู้บริโภคได้เห็นแต่ละขั้นตอนว่าก่อนที่โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) ที่จะถึงมือลูกค้าเป็นอย่างไร
นายปรมินทร์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "องค์กรของเราถือเป็นองค์กรที่ได้รับมาตรฐานการฝึกฝน และดูแลพนักงานในระดับสากล ทำให้มีผู้สนใจอยากจะร่วมงานกับเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่มองหางานพิเศษที่สามารถทำในระหว่างเรียนได้ และเราก็เปิดโอกาสตรงนี้สำหรับนักศึกษาด้วย เราจึงได้จัดกิจกรรมเพื่อรับสมัครพนักงานเพิ่มเติมขึ้น เพื่อที่จะได้มองหา และคัดเลือกพนักงานใหม่ ๆ ที่มีความสนใจที่จะร่วมงานและเติบโตไปกับองค์กรของเรา"
ในแง่ของการตลาด โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีการเติบโตทางการตลาดค่อนข้างรวดเร็ว ฝ่ากระแสการแข่งขันอันรุนแรงของกลุ่มธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่มีตัวเลือกในการบริโภคมากมายในปัจจุบัน โดยภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีนับตั้งแต่เปิดดำเนินการในประเทศไทย สามารถขยายสาขาได้มากกว่า 34 สาขา และมีผลประกอบการที่เติบโตมากขึ้นทุกปี
"ต้องยอมรับว่าการแข่งขันในตลาดกลุ่มอาหารฟาสต์ฟู้ดถือว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบกันเฉพาะร้านพิซซ่า โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) ยังถือว่ามีฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่เชื่อมั่นในคุณภาพ และตอนนี้โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) ต้องการขยายกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ต้องการลองอะไรที่แปลกใหม่ ทำให้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นที่น่าพึงพอใจ และคาดว่าในปี 2561 เรามีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก กว่า 20 สาขาอีกด้วย และเป็นปีที่โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) จะฉลองครบรอบ 5 ปี" ดังนั้นเราจะมีพิซซ่าหน้าที่หลายหลากขึ้น รวมถึงเพิ่มอาหารเรียกน้ำย่อยที่จะถูกปากผู้บริโภคคนไทยได้มากขึ้น นายปรมินทร์ กล่าว และกล่าวต่อไปว่า
"โดมิโน่ส์ พิซซ่า" เป็นแบรนด์พิซซ่าที่มีชื่อเสียงทั่วโลก แต่ตลาดในประเทศไทยยังไม่เติบโตเท่าที่ควร เกิดจากการบริหารแบรนด์ที่โฟกัสไปผิดจุด คือเปิดร้าน โดมิโน่ส์ พิซซ่า โดยเน้นที่ศูนย์การค้าหรือห้างเยอะเกินไป ประมาน 5-10 สาขา ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่จุดขาย ของ โดมิโน่ส์ พิซซ่า เลย และจุดขายของ โดมิโน่ส์ พิซซ่า นั้นเน้นที่การ Delivery และ Service ที่รวดเร็วและมีคุณภาพ โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ
นายปรมินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ลงมาดูแลแบรนด์ด้วยตนเอง จึงมีความตั้งใจที่จะ Refresh แบรนด์ใหม่ทั้งหมด โดยจะจับจุดโฟกัสของแบรนด์ให้ถูกต้อง พร้อมขยายสาขาในที่ชุมชนเพื่อให้เข้าถึงได้มากขึ้น และส่งพิซซ่าได้รวดเร็ว โดยจะขยายสาขาทั้งหมดอย่างน้อยเดือนละ 1 สาขาในปี 61 หรือประมาน 20 สาขาต่อปี พร้อมลดราคาลงมาถึงเกือบประมาน 50% เพื่อจับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา
ส่วนความหลากหลายของหน้าพิซซ่า จะมีเมนูพิซซ่าที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองคนทุกกลุ่ม ซึ่งมีทั้งแบบพรีเมี่ยม แบบสบายกระเป๋า และแบบเน้นสุขภาพ และอาจจะใช้ ambassador ในปีหน้า เพื่อสร้างกระแสและช่วยอธิบายให้ทุกคนรู้ว่า"โดมิโน่ส์ พิซซ่า"มีดีอย่างไร ซึ่งจะเน้นภาพลักษณ์ที่สนุกสนานและมีความเป็นครอบครัว
ในปีหน้าตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีทั้งหมด 50 สาขาครอบคลุมทั้ง กทม.และปริมณฑล พร้อมเน้นการจัด Training ทุกตำแหน่ง และมีการ Refresh แบรนด์ เพื่อจะสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานด้วยว่า คุณสามารถเติบโตไปกับเราได้ โดยมีตารางให้ดูชัดเจนว่าทำกี่ปีจะได้เลื่อนตำแหน่ง และมีค่า KPI ให้ดูอย่างชัดเจน
นายปรมินทร์ กล่าวปิดท้ายว่า "โดมิโน่ส์ พิซซ่า" จะเน้นการบริการแบบ Delivery ให้ชัดเจนมากถึง เป็น 70% จากตอนนี้ 40% และจะส่งให้รวดเร็วและมีคุณภาพกว่าคู่แข่ง โดยจะใช้เวลาส่ง พิซซ่าให้ได้ประมาณ 15-20 นาที โดยใช้งบการทำตลาดประมาณ 100 ล้านบาท ในการลงทุนรวมถึงการขยายสาขา โดยคาดว่า ปีนี้จะสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 150-200 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 5% และคาดว่าจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น จะทำให้ "โดมิโน่ส์ พิซซ่า" มีอัตราการเติบโตขึ้นอีก 50%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit