นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การจัดงานร่วมกับ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC นั้น ทางสสว. ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทย นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดนานาชาติ โดยการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน HKTDC Small Order Zone ซึ่งเน้นโซลูชั่นด้านการตลาดที่จัดแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าและทางช่องทางการค้าแบบออนไลน์ เพียงแค่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จัดส่งสินค้ามาที่ฮ่องกง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาจัดแสดงสินค้าภายในงานด้วยตนเอง ซึ่งวิธีนี้จะสามารถช่วยผู้ประกอบการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้
"ในปีนี้ฮ่องกงถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจท้าทายที่สุดในโลก และในขณะเดียวกัน สสว. ก็ได้มีเป้าหมายในการพัฒนาช่องทางการตลาดและการสร้างขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการไทย ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดใน ASEAN+6 CLMV จีน แอฟริกา เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และรัสเซีย สสว. จึงได้ร่วมมือกับ HKTDC ภายใต้โครงการ Thai AIM ดังนั้นนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อจากนานาชาติผ่านช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพของฮ่องกง""ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ส่งผลงานมาร่วมโครงการ จะได้รับโอกาสในการทดสอบกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ของตนผ่านประสบการณ์จริง ไม่เพียงเฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมไปถึงตลาดระดับโลกอย่างในฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย" ผอ.สสว. ระบุ
นายสุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการที่จะเป็นหนึ่งในผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมงานครั้งนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้าง portfolio บนเว็บไซต์ TCDCCONNECT.COM พร้อมกับวีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ความยาวไม่เกิน 20 วินาที หรือ รูปภาพผลิตภัณฑ์ และส่งผลงานดังกล่าวให้แก่ทีมงานเพื่อทำการโหวตผลงานผ่านทาง Facebook
"เราไม่ต้องการให้พวกเขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีเท่านั้น แต่ควรจะให้ความสำคัญในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ด้วย โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือจากทาง สสว. ในการสร้าง Start-ups ให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ ที่เกิดธุรกิจจริงกว่า 3,000 ราย" นายสุวรรณชัย กล่าว
ด้านนายซันนี่ เชาว์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) ได้เล็งเห็นความสำคัญของศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มเอสเอ็มอีไทยที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง HKTDC จึงวางเป้าหมายที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในกลุ่มงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในประเทศไทยซึ่งมีความสามารถเด่นทางด้านความคิดสร้างสรรค์ มีการนำนวัตกรรม และไอเดียใหม่ๆ มาใช้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีฝีมือในการผลิตที่เป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก
"ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีการนำเข้าสินค้าส่งออกจากประเทศไทยใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น แม้จะมีประชากรเพียง 7 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ฮ่องกงเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสำหรับสินค้าไทยที่จะส่งออกไปทั่วโลก โดย HKTDC มีความยินดีที่จะร่วมเป็นแพลตฟอร์มในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไทย ไปสู่ตลาดสากลผ่านศักยภาพของช่องทางการตลาดที่ฮ่องกงมี ซึ่งที่ผ่านมา โครงการ Thai AIM ได้ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกก็ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และผู้เยี่ยมชมในงานจัดแสดงสินค้าที่ฮ่องกงเช่นกัน" นายเชาว์ กล่าว
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) โทร.02343 9000 ในวันเวลาทำการ รวมทั้งเข้าร่วมโครงการได้โดยสร้าง Portfolio เพื่ออัพโหลดผลงานที่หน้าเว็บไซต์ www.tcdcconnect.com และส่งผลงานได้ที่ [email protected] ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มกราคม ศกหน้า