"แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์" นำบริษัท เจเคเอ็น โกบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) เข้าตลาดหลักทรัพย์ First Trading Day เปิดขายหุ้นเป็นวันแรก ซูเปอร์สตาร์อินเดีย "กอว์แตมโรด" บินมาร่วมงาน พร้อมกับเปิดหน้า "เจินเจิน บุญสูงเนิน" หลังผ่ายกหน้าในโครงการ The Aura ผ่าเปลี่ยนชีวิต ซึ่งแอนก็ได้พูดถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า..... "ตอนนี้เรานำเข้าคอนเทนต์ทั่วโลกเข้ามาอยู่ในเมืองไทยและฉายกันทุกช่องเห็นกันทุกแพลทฟอร์ม ที่กำลังมาแรงมากๆ ตอนนี้ก็ซีรีส์อินเดียภารตะพันล้าน ซีรีส์อินเดียของเราตอนนี้ดังทุกช่องเลย ก็ถือว่าเป็นการนำร่องที่ดี เรตติ้งแต่ละช่องที่นำซีรีส์อินเดียไปฉายตอนนี้ก็ขึ้นไปถึง 5-6 และบางซีรีส์ก็เรตติ้งดีกลายเป็นเบอร์หนึ่งของแต่ละช่อง และบางช่องก็ขึ้นมาเป็นอันดับ 3-4 ของประเทศได้ ซึ่งเราก็ยังคงนำเข้าคอนเทนต์ละครต่างประเทศและสร้างความคึกคักให้กับประชาชนชาวไทย ปีหน้าจะส่งซีรีส์ รักกระชากใจ จากฟิลิปปินส์ออนแอร์ค่ะ ซึ่งก็ได้ตัวซูเปอร์สตาร์เยอะแยะมากมาย ดาราศิลปินที่มาร่วมร้องเพลงกันไม่ว่าจะเป็นน้องอมิตา ทาทา ยัง , น้องนัท มีเรีย , เบน ชลาทิศ, มาเรียม, พี่ตู่ นันทิดา , คุณแอม เสาวลักษณ์ และใหม่ เจริญปุระ เยอะแยะมากมาย ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อโปรเจ็คนี้โดยเฉพาะ"
"แต่ว่าไฮไลท์สุดๆ CNBC ไทยแลนด์ เป็นการร่วมมือระหว่าง JKN กับสำนักข่าว CNBC ค่ะ สำนักข่าวเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งของโลกที่เรานำเข้ามาในไทย และร่วมมือกันหลายแพรทฟอร์ม ตลอดจนตัวช่องดิจิตอลหลายช่อง เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่เราจะออกไปสู่ระดับโลก เป็นการนำเข้าคอนเทนต์ต่างประเทศ และส่งออกคอนเทนต์ของเราไปสู่โลกผ่านช่อง CNBC ไทยแลนด์ นี่คือความภูมิใจของคนทั้งชาติในฐานะการผลิตของที่ดีที่สุดจากไทยออกสู่ทั่วโลกค่ะ ช่องนี้ยิ่งดูยิ่งรวยค่ะ คอนเซ็ปต์คือเราจะทำให้มันดูง่าย คนดูแล้วเข้าใจง่าย สามารถนำไปใช้ได้ ยิ่งดูยิ่งรวย แต่เป็นการทำงานมาตรฐานระดับโลก โดยที่เราจะส่งทีมงานไปเทรน CNBC อเมริกา และก็จะมีเจ้าหน้าที่ CNBC มาดูแลการผลิตในไทยด้วย"
ปีนี้คาดกวาดรายได้เกินพันล้าน เปิดซื้อขายหุ้นวันแรกก็ดีดไปถึง 5000 ล้านแล้ว
"ปีนี้ 3ไตรมาศที่ผ่านมาก็มากกว่าปีที่แล้วทั้งปีอยู่แล้วนะคะ ก็ประมาณ 800 กว่าล้านแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าทั้งปีแน่นอนว่าจาก 9 หลักก็ไปเป็น 10 หลักนะคะ ปีที่แล้วกำไรหลังหักภาษีก็ประมาณ 164 ล้านนะคะ ปีนี้ก็ขึ้นไปอย่างแน่นอน ทุกปีเราตั้งเป้าว่ารายรับและกำไรมากขึ้นไป 15% วันนี้ก็ถือได้ว่ามาร์เก็ตไซส์ก็ขึ้นไปมากพอสมควร จากตอนแรกที่เปิดตลาดประมาณ 4,000 กว่า ตอนนี้ไป 5,000 กว่าล้านเข้าไปแล้วในวันนี้นะคะ"
"ทุกวันนี้สื่อดิจิตอลตอนนี้แข่งขันกันดุเดือดนะคะ มันคือสงครามคอนเทนต์ ก็ยิ่งทำให้เจเคเอ็นยิ่งรวยค่ะ เพราะสื่อทุกช่องก็ให้ความเมตตาเราใช้บริการคอนเทนต์เรา เราก็มีกาลเทศะที่จะบริหารคอนเทนต์ให้กับแต่ละช่องได้อย่างสมเหตุสมผลเท่าเทียมกัน เราก็ต้องให้เกียรติคนที่ทำแต่ละประเภทกับเรามาก่อนก็จะได้ประเภทนั้นยาวนานต่อเนื่องไป ฉะนั้นถ้ามีการแข่งขัน เครื่องมือการสื่อสารไม่ใช่เฉพาะทีวีดิจิตอล แต่การแข่งขันประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นเคเบิ้ลแซทเทิลไลท์ และประเภทอื่นๆ เข้ามาอีก ยิ่งมีเครื่องมือสื่อสารมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ต้องการคอนเทนต์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น ผู้จัดจำหน่ายคอนเทนต์อย่างบริษัทเราก็ยิ่งขายดีเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งเยอะยิ่งมีการแข่งขันมากยิ่งทำให้เราขายได้ดี เพราะเครื่องมือการสื่อสารต้องการคอนเทนต์หมด คอนเทนต์เป็นตัวที่ไลฟ์ความสำเร็จให้กับทุกๆ คอมมูนิเคชั่นค่ะ"
ปีหน้าลงทุนเกือบพันล้าน ขยายตลาดไปยังเอเชียแปซิฟิก
"แต่ละปีก็จะมีงบในการซื้อคอนเทนต์อยู่แล้วประมาณ 700-800 ล้านบาทนะคะ ฉะนั้นปีหน้าก็น่าจะใกล้เคียงกัน เพราะมีตัวอะไรใหม่ๆ ที่ถูกตาต้องใจ และเราก็เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทยแล้วแต่หมายถึงต่างประเทศด้วย การทำงานของเราไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่มันขยายไปถึงเพื่อนบ้าน เอเชียแปซิฟิก ไปถึงระดับโกลด์บอลล์ และก็จะมีการผลิตโปรดักชั่นทั้งในและนอกประเทศ ต้องบอกว่าตอนนี้เนื้อหอมค่ะ"
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit