“มุนดิฟาร์มา” เปิดเกมชิงตลาดดูแลช่องปากและลำคอ ส่ง “เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล” ชูจุดแข็งด้านยาฆ่าเชื้อ หวังโกยแชร์ปีแรก 20%

14 Dec 2017
มุนดิฟาร์มา ตอกย้ำจุดแข็งผู้นำตลาดยาฆ่าเชื้อ เปิดแผนกลยุทธ์ต่อยอดแบรนด์ "เบตาดีน" อัดงบการตลาด70 ล้านบาท เปิดตัว "เบตาดีน(R) โทรตสเปรย์" (BETADINE(R) THROAT SPRAY) และ "เบตาดีน(R) การ์เกิล"(BETADINE(R) GARGLE) 2 ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลช่องปากและลำคอ เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเพศ ทุกวัย เน้นการสื่อสารเจาะลึกทุกช่องทาง ตั้งเป้าโกยส่วนแบ่งตลาดปีแรก 20%
“มุนดิฟาร์มา” เปิดเกมชิงตลาดดูแลช่องปากและลำคอ ส่ง “เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล” ชูจุดแข็งด้านยาฆ่าเชื้อ หวังโกยแชร์ปีแรก 20%

นางวราวรรณ จันทรสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการแผนกคอนซูเมอร์ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "เบตาดีน" เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอ (Throat Care) ว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากในเกือบทุกประเทศ ทั้งนี้สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดกลุ่มนี้นับว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 352 ล้านบาท และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 17% ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดพร้อมเปิดตัว เบตาดีน(R) โทรตสเปรย์ (BETADINE(R) THROAT SPRAY) สเปรย์พ่นปากลดอาการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอ และ เบตาดีน(R) การ์เกิล (BETADINE(R) GARGLE) ยาน้ำใช้บ้วนปาก ที่มีจุดขายด้านการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บคอ

"ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ มุนดิฟาร์มา ก้าวเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอ เนื่องจาก "เบตาดีน"เป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลรักษาเกี่ยวกับการติดเชื้อแบบองค์รวมที่คนไทยรู้จัดมากว่า 30 ปี และจากการทำวิจัย ประกอบกับความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย "เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์(Betadine Natural Defense)" สำหรับทุกคนในครอบครัวเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเราก็ไม่หยุดที่จะขยายฐาน "เบตาดีน" ไปยังตลาดอื่นๆที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาการติดเชื้อ ด้วยการ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอเบตาดีน(R) โทรตสเปรย์, เบตาดีน(R) การ์เกิล ออกสู่ตลาด

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นสูตรที่มีตัวยาหลักเป็น "โพวิโดน ไอโอดีน" ซึ่งคิดค้นขึ้นมาสำหรับใช้ในช่องปากและลำคอโดยเฉพาะ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอ คออักเสบ สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว ผู้ใหญ่ และเด็ก 6 ขวบขึ้นไป "และเพื่อสร้างการรับรู้และการสื่อสารอย่างเจาะลึกทุกช่องทาง บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทุ่มงบทางการตลาด 70 ล้านบาท โดยใช้ทั้ง Above the line และ Below the Line ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์, สื่อดิจิทัลมีเดีย ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคไปสู่ในวงกว้าง รวมไปถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บคอ แนวทางการรักษาแก่กลุ่มเภสัชกรและผู้ช่วยเภสัชกรในร้านขายยา เพื่อใช้แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอ(Throat Care) แก่ผู้บริโภคที่เข้ามา

ผลิตภัณฑ์ เบตาดีน(R) โทรตสเปรย์ (BETADINE(R) THROAT SPRAY) สเปรย์พ่นปาก สูตรปราศจากน้ำตาล และ ผลิตภัณฑ์ เบตาดีน(R) การ์เกิล (BETADINE(R) GARGLE) ยาน้ำบ้วนปาก สูตรปราศจากน้ำตาล มีตัวยาสำคัญ คือ โพวิโดน ไอโอดีน มีคุณสมบัติเป็นแอนตี้เซฟติค จึงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้สำหรับลดอาการอักเสบบริเวณปากและลำคอ,ป้องกันแผลในปากติดเชื้อ, รักษาแผลในปาก, เหงือกอักเสบ และระงับกลิ่นปาก

โดยผลิตภัณฑ์ เบตาดีน(R) โทรตสเปรย์ (BETADINE(R) THROAT SPRAY) มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 15มิลลิลิตร ราคา 155 บาท และขนาด 25 มิลลิลิตร ราคา 285 บาท ส่วน ผลิตภัณฑ์ เบตาดีน(R) การ์เกิล (BETADINE(R)GARGLE) มีขนาด 30 มิลลิลิตร ราคา 160 บาท มีวางจำหน่ายที่ร้านขายยาชั้นนำและโรงพยาบาลทั่วไป

นางวราวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า "จากการเปิดตัว เบตาดีน(R) โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน(R) การ์เกิล ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างในด้านการดูแลช่องปากและลำคอ โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดที่ 20% ในปี 2561"

“มุนดิฟาร์มา” เปิดเกมชิงตลาดดูแลช่องปากและลำคอ ส่ง “เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล” ชูจุดแข็งด้านยาฆ่าเชื้อ หวังโกยแชร์ปีแรก 20% “มุนดิฟาร์มา” เปิดเกมชิงตลาดดูแลช่องปากและลำคอ ส่ง “เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล” ชูจุดแข็งด้านยาฆ่าเชื้อ หวังโกยแชร์ปีแรก 20%
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit