New SAT: ข้อสอบ SAT ใหม่ตั้งแต่ปี 2016 "ยากหรือง่ายกว่าเดิม" ตั้งแต่รอบสอบ May 2016 ในประเทศไทย การสอบ SAT จะเปลี่ยนระบบใหม่โดยใช้ชื่อว่า Redesigned SAT หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า New SAT วันนี้เรามาดูกันว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง
1. ลดข้อสอบจากเดิม 3 ส่วน (Math, Critical Reading, Writing) เหลือ 2 ส่วนคือ Math และ Reading & Writing พูดกันแบบง่ายๆก็คือ ข้อสอบใหม่จะรวบ Reading และ Writing เข้าเป็นส่วนเดียวกันนั่นเอง โดยข้อสอบ Writing แบบเดิมจะบังคับเขียน Essay ด้วย แต่ข้อสอบแบบใหม่ไม่ได้บังคับให้เขียน Essay ใครไม่อยากเขียนก็ไม่ต้องสอบ
2. ลดเวลาในการสอบจาก 3 ชั่วโมง 45 นาที เหลือ 3 ชั่วโมงถ้วน เนื่องจากข้อสอบใหม่ไม่บังคับทำ Essay เหมือนแบบเก่า ดังนั้นใครไม่ต้องการสอบ Essay ก็จะใช้เวลาน้อยลง (ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในไทยส่วนใหญ่ไม่พิจารณาผลตรงนี้ ต้องคอยติดตามว่าในอนาคตจะมีหลักสูตรไหนต้องการผลตรงนี้บ้าง ส่วนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศบางแห่ง ต้องการผล Essay ด้วย) สำหรับใครที่อยากทำข้อสอบ Essay ด้วยต้องบวกเวลาเพิ่มไปอีก 50 นาที กลายเป็นใช้เวลาสอบนานกว่าการสอบแบบเดิมไป 5 นาที!
3. ลดคะแนนเต็มจาก 2,400 เหลือ 1,600 เนื่องจากการยุบรวม Reading กับ Writing ทำให้คะแนนลดลง 800 คะแนน โดยจะมาจาก Math 800 คะแนน และ Reading and Writing 800 คะแนน รวมกันเป็น 1,600 คะแนน อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยในไทยมักพิจารณาผลจากคะแนนเต็ม 1,600 อยู่แล้ว จึงไม่มีผลในส่วนนี้มากนัก
4. ไม่มีการหักคะแนนในกรณีตอบผิด ข้อนี้ถือเป็นข่าวดีที่ได้เฮกันยาวๆเลย ต่อไปนี้จะสามารถเดาคำตอบหรือ "กามั่ว" ได้อย่างเต็มที่ ต่างจากการสอบ SAT แบบเดิมที่หากตอบผิด จะมีการหักคะแนนด้วย
5. การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการสอบ ปี 2016 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเนื้อหาการสอบในทุกส่วน เรามาดูรายละเอียดแยกเป็นแต่ละส่วนกันเลย
5.1 Reading ข้อสอบในส่วนนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Evidence-Based Reading โดยมีคำถาม 52 ข้อ ให้เวลาทำ 65 นาที ในการสอบจะมี 4 Passage และ 1 Pair Passage (หมายถึงมี 2 Passage ที่เขียนโดยผู้เขียนคนละคน แต่พูดถึงเรื่องเดียวกันหรือคล้ายกัน) ในเรื่องต่างๆคือ (1) Literature – วรรณกรรมต่างๆ (2) Founding Documents or Great Global Conversation – เอกสารเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น รัฐธรรมนูญหรือคำพูดของบุคคลสำคัญของโลก (3) Social Studies – เรื่องความรู้ในวิชาต่างๆ เช่น Economics, Geography, Political Science, Psychology (4) Science – วิชาวิทยาศาสตร์ (Physics, Chemistry, Biology) โดยคำถามจะเริ่มจากคำถามกว้างๆก่อน เช่น The main purpose of this passage is to แล้วค่อยๆลงรายละเอียดในคำถามต่อไป สิ่งที่แตกต่างจากข้อสอบ Reading แบบเดิมคือ (1) การถามคำศัพท์ จะไม่มีการถามคำศัพท์แบบให้ท่องจำเหมือนแบบเดิม (ให้เติมคำศัพท์จากตัวเลือกลงในช่องว่าง ใครไม่รู้ศัพท์จะไม่มีทางตอบได้เลย) แต่การถามคำศัพท์แบบใหม่จะถามโดยให้อ่านเนื้อเรื่องแล้วถามว่าคำศัพท์ในเนื้อเรื่องคำนั้นน่าจะมีความหมายตรงกับตัวเลือกใดมากที่สุด วิธีนี้ทำให้ผู้สอบสามารถหาคำตอบได้หากสามารถตีความเนื้อเรื่องได้ดี เช่น As used in line 7, "want" most nearly means (A) hardship. (B) desire. (C) lack. (D) necessity. (2) มีการให้กราฟ/ ตาราง มานอกเหนือจาก Reading อย่างเดียว โดยคำถามจะให้หาข้อสรุปของข้อมูลในกราฟ/ ตาราง
5.2 Writing ข้อสอบในส่วนนี้มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Writing and Language โดยมีคำถาม 44 ข้อ ให้เวลาทำ 35 นาที ในการสอบจะมี 4 Passage ในเรื่องที่คล้ายกับ Passage Reading โดยในแต่ละ Passage จะมีการขีดเส้นใต้คำหรือประโยคจำนวน 11 จุด จากนั้นคำถาม 11 ข้อจะถามว่าส่วนที่ขีดเส้นใต้นั้นผิดหลัก Grammar หรือการเขียนหรือไม่ ถ้าผิด จะต้องแก้เป็นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างจากข้อสอบ Writing แบบเดิมคือจะไม่มีการสอบ Error Identification อีกต่อไป
5.3 Mathematics ข้อสอบในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ (1) No Calculator โดยมีคำถาม 20 ข้อ ให้เวลาทำ 25 นาที (1.25 นาทีต่อข้อ) ข้อสอบในส่วนนี้ห้ามใช้เครื่องคิดเลข แต่ผู้ออกสอบจะใจดี ออกข้อสอบที่ไม่ต้องมีการคำนวณซับซ้อน เช่น การคูณจุดทศนิยมหลายตัว (2) Calculator โดยมีคำถาม 38 ข้อ ให้เวลาทำ 55 นาที (1.45 นาทีต่อข้อ) ข้อสอบส่วนนี้ใช้เครื่องคิดเลขได้ตามปกติ โดยส่วนสำคัญคือการเพิ่มเนื้อหาบางอย่างที่ไม่เคยออกสอบข้ามา เช่น Trigonometrywww.testchiangmai.com id line : all2060โทร 052-009489, 085-0300735
("ภาษาอังกฤษ-คณิตง่ายนิดเดียว" "สอนสอบชิงทุนและแข่งขันระดับประเทศ" "Better Language, Brighter Future")โรงเรียนสอนภาษาและกวดวิชาปราชญ์เชียงใหม่เป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่ได้มาตรฐานมีระบบการประกันคุณภาพภายในอยู่ในระดับ "ดีมาก"ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และได้รับรางวัลส่งเสริมกิจกรรมอาเซียนดีเด่น Chiang Mai Education Hub
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit