นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2560 มีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับโรงไฟฟ้าชีวมวลมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการเดินเครื่องจ่ายไฟโรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ มีกำหนดการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนมกราคมปี 2561 อย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กำลังการผลิตอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้
"ไตรมาส 4 ไม่มีการตั้งสำรองและการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าชีวมวลก็มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้แนวโน้มผลประกอบการน่าจะออกมาดี โดยปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทั้งหมด 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ,โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG),โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH1,TPCH2และ TPCH5 และจากประสบการณ์ทำงานในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ก็มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้ดี สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้นและช่วยผลักดันให้กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน" นายเชิดศักดิ์ กล่าวในที่สุด
อย่างไรก็ตามกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ออกประกาศเรื่องการจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in Tariff เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 50% กำลังอยู่ในช่วงเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นขอเข้าร่วมโครงการ โดยคาดว่าจะยื่นเรื่องเข้าประมูลดังกล่าวเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ในขณะเดียวกันทางบริษัทฯ เองก็อยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมการยื่นประมูลโครงการ VSPP Semi Firm ที่มีร่างประกาศรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวออกมาแล้วและคาดว่าจะมีประกาศฉบับจริงออกมาในต้นปีหน้า
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2560) บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 130.69 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 130.99 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิ 26.22 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 49.53 ล้านบาท เนื่องจากตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีและเงินลงทุนชั่วคราว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit