รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) บูรณาการความร่วมมือกับ สวจ.ในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับผ้าไหม การส่งเสริมให้นักออกแบบเครื่องแต่งกายนำผ้าไหมของภาคอีสานให้เป็นชุดแต่งกายที่ทันสมัย รวมทั้งเผยแพร่ไปยังต่างประเทศอีกด้วย เพื่อให้เครื่องแต่งกายชุดผ้าไหมมีความทันสมัยและได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งยังจะขยายความร่วมมือในการจัดโครงการ "ร้อยแก่นสารสินธุ์เมืองศิลป์ถิ่นผ้าไหม" ซึ่งจังหวัดขอนแก่นในฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัด จะเป็นผู้ประสานงานการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานเป็นเมืองแห่งผ้าไหมและเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศและระดับโลกในปี 2561
นายวีระ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกำชับให้สวจ.ในพื้นที่ภาคอีสานเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม พุทธศักราช 2561" ซึ่งจะมีการจัดงานตามวัดทั่วประเทศและในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน รวมถึงวัดพุทธทั่วโลก โดยสวจ.ในพื้นที่ภาคอีสานจัดทำป้ายคัทเอาท์ตามสถานที่ต่างๆและประชาสัมพันธ์กิจกรรมดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งขอให้รายงานสรุปจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละจังหวัดมายัง วธ.ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เพื่อ วธ.จะได้นำข้อมูลมาสรุปยอดในภาพรวม
นอกจากนี้ ขอให้ไปบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อจัดทำปฏิทินกิจกรรมเทศกาลประเพณีของจังหวัดต่างๆ เพื่อแพร่หลายประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงการจัดงานวัดโดยจัดกิจกรรมการทำบุญ การจำหน่ายอาหาร ขนมไทยพื้นบ้าน สินค้าวัฒนธรรมและผลิตผลทางการเกษตร เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน อีกทั้งขอให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อนตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรมและถนนสายวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมการแสดงของศิลปินพื้นบ้าน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม สร้างรายได้และความภาคภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit