ถ้าหากลูกน้อยได้รับเชื้อไวรัสโรต้ามาแล้ว ในช่วงแรกอาจมีไข้ น้ำมูกและไอเล็กน้อยคล้ายการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ แต่จะมีอาการช่วงสั้นๆ แล้วมีอาการทางเดินอาหารตามมา โดยมักมีอาเจียนมากใน 1 - 2 วันแรก และท้องร่วงถ่ายอุจจาระเป็นน้ำพุ่งหลายครั้ง บางครั้งอาจถ่ายอุจจาระมากจนก้นแดงและมีอาการท้องอืดมากร่วมด้วย อาการอาเจียนจะพบในช่วง 1 – 2 วันแรก แล้วดีขึ้น แต่อาการท้องร่วงจะอยู่นานประมาณ 5 - 7 วัน หากไม่ได้รับเกลือแร่เพียงพอ จะทำให้มีโอกาสขาดน้ำและเกลือแร่ได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการติดเชื้อไวรัสโรต้านี้ทำให้ลูกน้อยมีความไม่สุขสบายหลายอย่าง จึงควรใส่ใจในเรื่องของความสะอาด เพื่อลดโอกาสที่ลูกน้อยจะติดเชื้อนี้
พญ.วิไลรัตน์ หล้ามาชน รักษาการแพทย์หัวหน้าแผนกกุมารเวช โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรต้าที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา ซึ่งผู้ปกครองควรพาลูกน้อยมารับวัคซีนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสโรต้า ซึ่งจะเป็นการปกป้องลูกน้อยได้อีกทางหนึ่ง
จากที่กล่าวมานั้นก็ยังไม่สามารถป้องกันครอบคลุมเชื้อโรคได้ทั้งหมด ผู้ปกครองจึงควรมุ่งเน้นป้องกันด้วยการเลี้ยงดู เช่น การสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่เด็กโดยการให้ดื่มนมแม่ เพราะในนมแม่มีภูมิคุ้มกันต้านไวรัสและแบคทีเรียชนิดต่างๆ รวมถึงลดโอกาสการปนเปื้อนจากภาชนะที่ไม่สะอาด รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังขับถ่าย จัดสุขลักษณะภายในบ้านให้สะอาด หลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น และที่สำคัญหากมีผู้ป่วยโรคไวรัสโรต้าอยู่ภายในบ้านหรืออยู่ห้องเรียนเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน รวมถึงหมั่นล้างมือและไม่เอามือเข้าปาก จะลดการติดเชื้อไวรัสโรต้าและไวรัสอย่างอื่นได้อีก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit