เอ็มจี เติบโตต่อเนื่อง ทุ่มงบลงทุนกว่าหมื่นล้าน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

18 Dec 2017
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี ด้วยงบประมาณการลงทุน ถึง10,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิต สูงสุด 100,000 คันต่อปี ด้วยนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ(Automations)และหุ่นยนต์อัจฉริยะ(Intelligent Robotics) ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตและระบบตรวจสอบคุณภาพที่ดีที่สุดและเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC มีที่ตั้งที่มีความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ทำให้โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวาระดับโลก เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค ตลอดจนส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นหนึ่งปณิธานของ เอ็มจี ที่ต้องการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในประเทศไทย อีกทั้ง พร้อมกับช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจของประเทศไทยในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ให้ก้าวหน้า ต่อไปในอนาคต
เอ็มจี เติบโตต่อเนื่อง ทุ่มงบลงทุนกว่าหมื่นล้าน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากท่านรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ฯพณฯ อู๋ จื้ออู่ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้แทนภาครัฐ เอกชน รวมถึงคณะผู้บริหารระดับสูงของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พนักงานและสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ โรงงานแห่งใหม่ ของเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด จังหวัดชลบุรี

มร.สือ กั๋ว หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี จำกัด กล่าวว่า "ตั้งแต่ เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพีและแบรนด์เอ็มจีก่อสร้างโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยในปี 2013 เรายืนหยัดในการใช้กระบวนการที่มีมาตรฐานสูงในการสร้างฐานผลิตเอ็มจีในเมืองไทย นำรถยนต์คุณภาพสูงเข้าสู่ตลาดและให้บริการระดับสูงเพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยมีประสบการณ์ที่ดี หลายปีที่ผ่านมา บริษัท เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี ได้นำรถยนต์คุณภาพหลายรุ่นเข้าสู่ตลาด เช่น3,MG5, MG6, MG GS เป็นต้น และ บริษัท เอ็มจีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อสร้างศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เอ็มจี เปิดตัวบริการหลังการขาย และแบรนด์รถมือสองในประเทศไทยด้วย แม้ว่าเราเริ่มต้นด้วยความยากลำบาก แต่จนถึงปัจจุบัน ทุกก้าวเป็นไปอย่างมั่นคง วันนี้ พวกเรายินดีอย่างยิ่งที่เห็นผู้บริโภคคนไทยยอมรับและเลือกใช้รถเอ็มจีมากขึ้น และเริ่มมีผู้บริโภคคนไทยติดตามและชื่นชอบแบรนด์เอ็มจีมากขึ้นด้วย"

มร.สือ กั๋ว หย่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ เอสเอไอซี – มอเตอร์ ความมุ่งมั่นในการขยายตลาดประเทศไทย เจตจำนงและความตั้งใจในการพัฒนา เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี ให้แข็งแกร่งนั้น จึงตัดสินใจสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทยในปี 2016 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม หลังจากนั้น 14 เดือน โรงงานแห่งใหม่ที่ทันสมัยได้ก่อสร้างขึ้นมา การเปิดและเริ่มเดินสายผลิตของโรงงานแห่งใหม่นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับการพัฒนาแบรนด์เอ็มจีในประเทศไทยจะช่วยให้บริษัทเอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี มีการเติบโตและพัฒนาได้เร็วขึ้นดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

"ในวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาเราได้เปิดตัว รถ MG ZSใหม่ ซึ่งได้มีการติดตั้งระบบอัจฉริยะ "i-SMART" และเป็นรถรุ่นแรกในโลกที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และประสบความสำเร็จ โดยหลังการเปิดตัวเพียงเดือนเดียว ก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้เรามีความมั่นใจกับอนาคตของ เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ รถยนต์ MG ZSใหม่ เป็นต้นไป รถเอ็มจีทุกรุ่นจะผลิตขึ้นในโรงงานแห่งใหม่นี้ ภายใต้สี่ยุทธศาสตร์หลักของเครือ เอสเอไอซี – มอเตอร์ ได้แก่ อินเตอร์เน็ต คาร์ รถพลังงานทางเลือก คาร์ แชร์ริ่ง และ รถขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ พวกเราจะนำการออกแบบสินค้าที่ดีที่สุดและเทคโนโลยีเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ทันสมัยที่สุดมาใช้ในรถเอ็มจี นำเสนอผลิตภัณฑ์การเดินทางและประสบการณ์การใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภคชาวไทยด้วยสินค้าและบริการที่แตกต่าง เพื่อสร้าง เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี ให้เป็นฐานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลกที่ปักหลักในประเทศไทย และครอบคลุมทั่วอาเซียน" มร.สือ กั๋ว หย่ง กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า" ตั้งแต่ปี 2556 ที่บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ได้จัดตั้งขึ้น เราได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือเป็นอย่างมากจากผู้บริหารระดับสูงของเครือเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น ตลอดจนการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลไทย ผมรู้จักแบรนด์ เอ็มจี มาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณภาพ เมื่อทราบว่าเครือเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น ได้ซื้อกิจการเอ็มจี และมีนโยบายที่จะตั้งศูนย์การผลิตพวงมาลัยขวาในต่างประเทศ จึงได้ชักชวนให้มาร่วมลงทุนในประเทศไทยซึ่งมีความพร้อมสูงสุดในอาเซียน และผมเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์โครงการนี้ เป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า และประชาชนชาวไทยมีโอกาสเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณภาพมากขึ้น"

"ความสำเร็จของเรามาจากความร่วมมืออันดีและความเชื่อมั่นระหว่างผู้ร่วมทุนเครือเครือเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น และเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผลมาจากความพยายามมุ่งมั่นของคณะผู้บริหารและพนักงาน ในฐานะตัวแทนบริษัทร่วมทุน ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นโรงงานแห่งใหม่ที่เสร็จสมบูรณ์ตามกำหนด ซึ่งจะเป็นรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาเอ็มจีในระยะยาวต่อไป" นายธนากร เสรีบุรี กล่าวทิ้งท้าย

โดยภายในพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ยังมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการวิจัยและพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ ระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กับ บริษัท เอสเอไอซี – มอเตอร์ ซีพี จำกัด โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และ jมร.จาง ไห่โป รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจีเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ทั้งนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ เอ็มจี แห่งใหม่ นอกจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อคุณภาพการผลิตที่ยอดเยี่ยมแล้ว การออกแบบและก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ เอ็มจี แห่งใหม่นี้ ยังมีการติดตั้งหุ่นยนต์เพื่อใช้ในสายการผลิตเพิ่มเติม เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพ และการเสริมสร้างความปลอดภัยในสายการผลิต อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานและมลพิษต่างๆ เพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังคำนึงถึงหลัก"การยศาสตร์"(Ergonomics) เพื่อเอื้อต่อสภาพการทำงานที่เหมาะสมของพนักงานและเจ้าหน้าที่ เอ็มจี อีกด้วย

HTML::image( HTML::image( HTML::image(