นายวิจิตร เจียมวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL เปิดเผยว่า ในปี 2560 นี้ เป็นปีที่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่มาครบ 111 ปี จากจุดเริ่มต้นการทำเหมืองแร่ดีบุกในอ่าวภูเก็ต ตั้งแต่ปี 2448 โดยกัปตัน เอ็ดเวิร์ด ที ไมล์ส ชาวออสเตรเลีย ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ หลายปีที่ผ่านมา THL ประสบปัญหามากมายทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ THL ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารชุดใหม่ มุ่งมั่นดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อที่จะผลักดันบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ที่ผ่านมา THL มีการเพิ่มทุนจำนวน 2 ครั้ง เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และขยายการลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ พลังงานทางเลือก และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น
"THL ขยายการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ผลประกอบของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 พลิกจากการขาดทุนสุทธิในช่วงเดียวกันปี 2559 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 211.62 ล้านบาท กลับมามีกำไรสุทธิ3242.4932ล้านบาท และเชื่อมั่นว่า ผลประกอบการทั้งปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายวิจิตร กล่าว
ผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมาก เกิดจากการเพิ่มกำลังการผลิตและยอดขายในธุรกิจเหมืองแร่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหมืองแร่ดีบุกที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เหมืองหินแอนดิไซด์ในประเทศไทยที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดโอนเพิ่มขึ้น โดยในอนาคตธุรกิจพลังงานทดแทนที่บริษัทฯ ได้เริ่มลงทุนในปีนี้ จะเริ่มสร้างรายได้ให้บริษัทฯ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
นายวิจิตร ย้ำอย่างหนักแน่นว่า "เมื่อองค์กรมีกำไร ไม่เคยลืมนึกถึง สังคมและชุมชน เป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างจริงจัง THL จะนำผลกำไรตอบแทนกลับสู่สังคม แต่ในกรอบความคิดที่แตกต่าง นั่นคือ เน้นหนักการสร้างความผูกผันระหว่างองค์กรกับชุมชน เป็นมากกว่าการมีส่วนร่วม แต่เข้าถึงชีวิต ความรู้สึก และจิตใจของชุมชน นั่นเอง"
จุดเริ่มต้นของแนวคิด ปันกำไรสู่สังคม เริ่มจากการกำกับดูแลและควบคุมการดำเนินงานภายในองค์กรให้เป็นไปตามกฎหมาย และมาตรฐานสากลทั้งในด้านกระบวนการผลิต และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายให้ได้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพอากาศ น้ำ การจัดการกากอุตสาหกรรม และเสียง รวมไปถึงการดูแลและปลูกฝังความคิดแห่งคุณภาพสู่บุคลากรภายในองค์กรอย่างเข้มงวด
เมื่อองค์กรภายในดีแล้ว ก็จะสามารถนำสิ่งที่ดีไปมอบให้แก่สังคมในทุกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักสร้างความผูกผันระหว่างองค์กรกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพและปันความสุข ใน 3 องค์ประกอบหลักสำคัญของชีวิตแต่ละชุมชน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ และด้านสวัสดิภาพของชุมชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการทางกายภาพและจิตใจอย่างแท้จริง
การสร้างคุณภาพและปันความสุขด้านสุขภาพ เริ่มจาก "ส่งเสริม" รณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเจ็บป่วย เพื่อป้องกันไม่ให้อยู่ในสภาวะเสี่ยงเป็นผู้ป่วย และการดูแลอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดให้มีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมทั้ง ยัง "บรรเทารักษา" ด้วยการสนับสนุนเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์และยารักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงและเหมาะสม ตลอดจน ให้ความสำคัญด้านสุขภาพจิตใจ จรรโลงและยกระดับจิตใจของแต่ละบุคคลในชุมชนอย่างสร้างสรรค์การสร้างคุณภาพและปันความสุขด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิต คำนึงถึงปัจจัยการดำรงชีวิตที่ดีของแต่ละบุคคลอย่างครบวงจร ตั้งแต่ การพัฒนาและส่งเสริมด้านการศึกษา การสร้างอาชีพ ส่งเสริมรายได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างยั่งยืน
การสร้างคุณภาพและปันความสุขด้านสวัสดิภาพของชุมชน เกิดจากความคิดที่ว่า การใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างปลอดภัยเป็นความปรารถนาหลักของชุมชน จึงดำเนินงานใน 2 ส่วน ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวัง เพื่อป้องกันปัญหาหรือผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชุมชน และ ศูนย์ประสานงาน เพื่อช่วยเหลือในการรับเรื่อง ร้องทุกข์ และประสานงานระหว่างชุมชนกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรง
"ทั้งหมดนี้ THL ได้กำหนดแผนการดำเนินงาน สร้างคุณภาพและปันความสุข ให้แก่ชุมชนไว้อย่างชัดเจน โดยปันกำไรร้อยละ 3 ไว้เป็นทุนในการจัดกิจกรรมในแต่ละปี เพื่อเป็นเครื่องหมายยืนยันว่า ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ THL จะดำเนินการอย่างรอบด้าน สร้างการเติบโตธุรกิจ ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และสามารถเติบโตไปพร้อมกับสังคม ชุมชน และดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน" นายวิจิตร สรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit