ชุมชนบ้านแหลมมะขาม เป็นชุมชนเก่าแก่ ลักษณะพื้นที่เป็นแหลมยื่นไปในทะเล มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ป่าชายเลน ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติของป่าชายเลนที่มีระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ระหว่างทางก็จะพบกับสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน อย่างเช่น ลิงแสม เหยี่ยวแดงคอขาว อีกา เป็นต้น เมื่อนั่งเรือออกไปถึงปากอ่าว ก็จะพบกับทัศนียภาพของเกาะช้างที่สวยงามมาก เชื่อว่าจะต้องเป็นภาพที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน
นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมงมหอยปากเป็ดร่วมกับชาวบ้าน แล้วนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย อย่างเมนูเด็ดในท้องถิ่นก็คือ ผัดเผ็ดหอยปากเป็ดนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของสมัยรัชกาลที่ 5 ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้กัน เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมภาพทางประวัติศาสตร์ของรัชกาลที่ 5 ไว้อย่างมากมายกว่า 200 ภาพ พระนามที่ชาวตราดเรียกขานพระองค์คือ "เสด็จพ่อ พระพุทธเจ้าหลวง" ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนสำหรับ นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ซึ่งไม่มีเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้บ้านแหลมมะขามยังมีจุดเด่นด้านศาสนาและวัฒนธรรม อย่าง "โต๊ะวาลี" เป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวมุสลิม แต่อยู่ภายในพื้นที่ของ วัดแหลมมะขาม ซึ่งเปรียบเสมือนความเชื่อของชาวมุสลิมในเรื่องปาฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งทางใจ โดยชาวบ้านได้สร้างเป็นแท่นคอนกรีตรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายหลุมศพ ภายในส่วนบนมีทรายละเอียดเกลี่ยเรียบ ส่วนล่างเป็นแก่นไม้ขนาดใหญ่เกือบเท่าตัวคนฝังอยู่ มองจากภายนอกจะเห็นเป็นกระโจมกรุด้วยผ้าลูกไม้สีสดคลุม ชาวมุสลิมทั่วประเทศที่เคารพนับถือได้เดินทางมายังโต๊ะวาลีเป็นประจำ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในชุมชนอย่างเป็นกันเอง และกล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "ชุมชนบ้านแหลมมะขาม จ.ตราด เป็น 1 ใน 10 ของกิจกรรม Village Tourism 4.0 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้น เราได้นำเรื่องของนวัตกรรม ทำอย่างไรให้ชาวบ้านทำน้อยแต่ได้มากบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ชุมชนบ้านแหลมมะขามมีความโดดเด่นในเรื่องของธรรมชาติ วิถีชีวิต และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์จักสานที่มีความละเอียด อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่างปลาพล่า หมูชะมวง ผัดเผ็ดหอยปากเป็ด มะกรูดเชื่อม บอระเพ็ดแช่อิ่ม ซึ่งหาทานได้ปีละครั้ง สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนครับ" สุดท้ายนี้นายยุทธศักดิ์ฝากถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "สำหรับกิจกรรมนี้ ทางททท.ตั้งใจที่จะเข้าไปยกระดับการท่องเที่ยวในชุมชนให้มีความยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล หากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์และเส้นทางการท่องเที่ยวต่างๆของชุมชน ทางททท. จะนำไปจัดจำหน่ายในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 45 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ฮอลล์ 3 และ 4 ในวันที่ 2 - 5 พฤศจิกายน 2560 นี้ หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/villagetourism ครับ"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit