ในฐานะพสกนิกรชาวไทย มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์มาปฏิบัติ นำศาสตร์พระราชามาดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาภาคเกษตรของไทย สู่การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ และการมีอาชีพที่มั่นคง ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถดำเนินกิจการด้านการเกษตรด้วยตนเองได้อย่างยั่งยืน นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ของเครือซีพีและซีพีเอฟที่มีโอกาสได้มีส่วนในการดำเนินโครงการตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ในหลากหลายโครงการ
อาทิ "โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรม" ที่เครือซีพีและซีพีเอฟ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาดำเนินการขยายผลให้เป็นรูปธรรม ด้วยการพัฒนาการเกษตรครบองค์รวม ทั้งเรื่องการผลิต การจัดการ การตลาด และการบริหารกำไร เพื่อให้เกษตรมีอาชีพมีรายได้ มีการจัดการ มีการตลาด การบริหารต้นทุน บริหารกำไร อย่างพอเพียงและพึ่งพาตนเองได้โดยการจัดตั้งองค์กรณ์ของตนเองมาดูแลกิจการ และนำผลกำไรมาสร้างสวัสดิการ ตลอดจนพัฒนาชุมชนของตนเองอย่างยั่งยืน
"โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า" อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา คือตัวอย่างความสำเร็จนั้น จากการพลิกฟื้นผืนดินแห้งแล้งสภาพเป็นดินทรายที่เสื่อมโทรม เพาะปลูกไม่ได้ผล ซีพีได้รวบรวมที่ดิน 1,253 ไร่ มาจัดรูปที่ดินใหม่เมื่อปีพ.ศ.2520 แล้วนำมาจัดสรรให้เกษตรกร 50 ครอบครัว ใช้เป็นที่ดินทำกินและอยู่อาศัย มีอาชีพเลี้ยงหมูควบคู่กับการเพาะปลูก เพื่อยกระดับศักยภาพเกษตรกรสู่การทำอาชีพเกษตรเชิงธุรกิจด้วยการเลี้ยงหมูโดยมีซีพีเอฟสนับสนุน จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นต้นแบบการส่งเสริมเกษตรกรยากไร้ได้มีที่ทำกิน มีอาชีพมั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี สืบทอดสู่ลูกหลานอย่างยั่งยืน
"ความสำเร็จของเกษตรกรหนองหว้า เกิดขึ้นได้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ด้วยแนวพระราชดำริด้านการปฏิรูปที่ดิน ที่ซีพี ซีพีเอฟ ร่วมกับเกษตรกรน้อมนำมาปฏิบัติด้วยความมุ่งมั่นตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ช่วยสร้างชีวิตที่ยั่งยืนแก่เกษตรกร พวกเราทุกคนน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้" ภักดี ไทยสยาม ประธาน บริษัท หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า จำกัด กล่าว
"โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร" อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมาดำเนินการสนับสนุนเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน สร้างอาชีพที่มั่นคงและพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง จนได้ชื่อว่า "หมู่บ้านสามัคคี เทคโนโลยีทันสมัย" และส่งต่อความสำเร็จสู่เกษตรกรรุ่นที่2 ที่มุ่งพัฒนาอาชีพให้มั่นคงต่อไป
"โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพหมู่บ้านสหกรณ์" ที่ซีพีเอฟได้รับมอบหมายให้สนับสนุนการเลี้ยงไก่ไข่ในระบบปิด ในสหกรณ์ 7 แห่ง จากทั้งหมด 14 แห่ง เพื่อพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ตามพระราชดำริ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพกรรมการสหกรณ์และสมาชิก ขณะที่มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ ดำเนินการพัฒนาศักยภาพและปลูกจิตสำนึกรักษ์สหกรณ์แก่เยาวชนลูกหลานสหกรณ์ควบคู่กันไป
"โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี โดยมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ และซีพีเอฟเข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการฯ ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการอาชีพเกษตรแก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีรายได้ที่ดีขึ้น อาชีพมั่นคงยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังสนับสนุนการต่อยอดความสำเร็จสู่อาชีพรองอื่นๆ เพื่อให้มีรายได้ตลอดทั้งปี
นอกจากโครงการเพื่อพัฒนาด้านการเกษตรแก่เกษตกรแล้ว มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ และซีพีเอฟ ได้มีส่วนร่วมพัฒนาเยาวชนไทยผ่าน "โครงการศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร" ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยซีพีเอฟมีบทบาทสำคัญด้านงานสาธิตธุรกิจเกษตร ผ่านโครงการเลี้ยงไก่ไข่กว่า 14,000 ตัว รวมทั้งโครงการเลี้ยงแพะนมพันธุ์ซาแนล ที่สามารถนำนมแพะมาเป็นอาหารเสริมให้นักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ฯ ซึ่งอยู่ประจำที่ศูนย์ฝึกได้รับประทานแทนนมวัว และนำผลผลิตบางส่วนไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างความสำเร็จจากการน้อมนำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติให้เกิดผลจริง ที่ซีพีเอฟและมูลนิธิฯ ได้ตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาท นำศาสตร์พระราชามาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และหลายโครงการยังมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit