ผมรู้สึกว่าบทนี้เหมาะกับตัวเองตั้งแต่ตอนที่มาออดิชั่นแล้วล่ะครับ ยิ่งพอได้อ่านสคริปต์ ผมก็ยิ่งเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของ "ตัวละครนี้" มากขึ้น ทำให้ตอนที่ถ่าย ผมรู้สึกว่าทั้งตัวผมและตัวละครมันซ้อนทับกันอยู่เลยถ้าจะว่าตามตรง ระหว่างซากุระกับ "ผม" คือความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างมีอยู่ออกมาได้ ซึ่งนี่ก็ทำให้ผมประหลาดใจมาก ที่ในระหว่างแสดง จู่ๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากว่าได้เข้าไปซึมซับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนบนจอขนาดใหญ่ ก็จะได้สัมผัสถึงภาพและความสัมพันธ์อันสวยงามที่ดำเนินไปจนกระทั่งจบเรื่อง และก็จะต้องรู้สึกประทับใจในตัวภาพยนตร์ได้อย่างแน่นอน
ฮามาเบะ มินามิ รับบท ยามาอุจิ ซากุระ
ตอนที่อ่านบทหนัง ฉันเจอบทพูดและฉากที่น่าประทับใจเยอะแยะเลยค่ะ เพราะฉะนั้นก็เลยตั้งหน้าตั้งตาที่จะได้แสดงเรื่องนี้มากๆ ว่าตามตรง ตอนที่เห็นชื่อเรื่องครั้งแรก ฉันรู้สึกแปลกใจมากๆ แต่ว่าพอได้สัมผัสจริงๆ หนังเรื่องนี้กลับพาฉันดำดิ่งไปสู่โลกอันสวยงาม รอยยิ้มของซากุระที่เผยออกมาตลอดเวลา แม้ว่าตัวเธอจะป่วย ก็ยังคงพร้อมที่จะหัวเราะไปกับเพื่อนและครอบครัว เพราะฉะนั้น เวลาที่ต้องแสดงบทบาทนี้ จึงทำให้รู้ว่าเธอต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะยิ้มออกมา เพราะฉะนั้นก็เลยต้องแสดงออกมาอย่างระมัดระวังค่ะ
โอกุริ ชุน รับบท " พระเอกในอีก 12 ปี ต่อมา "
นิยายที่เป็นต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้ แค่อ่านชื่อ ก็ดึงดูดให้ผมซื้อมาได้แล้วครับ เพราะแบบนั้น ก่อนที่จะได้มาแสดง ผมก็เลยเคยอ่านนิยายมาก่อนแล้ว โดยในทีแรก ผมรู้สึกไม่ค่อยชอบพระเอกเท่าไหร่ แต่พอได้ซึมซับเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็รักในความเป็นเขาครับ คือดูเผินๆ เหมือนจะเป็นตัวละครที่ยากจะเข้าใจ ทว่ากลับยังคงเข้มแข็ง แม้ว่าจะต้องใช้ชีวิตต่อมาด้วยตัวคนเดียวก็ตามผมตั้งหน้าตั้งตาที่ได้จะแสดงเป็น "ผม" ซึ่งเป็นบทบาทเดียวกับทาคุมิคุงมาก และต้องเอาใจใส่ด้วยว่าบทบาทนี้ในสมัยก่อนทำอะไรบ้าง พอเป็นบทตอนเป็นผู้ใหญ่ ผมก็ต้องแสดงให้สอดคล้องกับการกระทำนั้นๆ
คิตางาวะ เคโกะ รับบท เคียวโกะ
ตอนที่ได้อ่านสคริปต์ครั้งแรก ฉันร้องไห้ให้กับเรื่องราวของซากุระ เป็นบ้าเป็นหลังเลยล่ะค่ะ แต่ว่าพอเข้าใจถึงแก่นของเรื่องราวแล้ว มันกลับทำให้ฉันมีพลังบวกและทำให้ประทับใจมากๆ
เพราะว่าไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง จึงจำเป็นต้องใช้วันนี้ให้คุ้มค่า และต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า "วันนี้จะใช้ชีวิตยังไง" "คำว่าชีวิตนั้นมีความหมายยังไงกันแน่" ซึ่งมันก็ทำให้ฉันเข้าใจมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับชมหลายๆ ฉากความสัมพันธ์ระหว่างซากุระกับ "ผม" ถ้าหากว่าสามารถย้อนกลับไปใช้ชีวิตช่วงม.ปลายได้ ฉันก็อยากจะไปสานสัมพันธ์กับผู้คนให้เยอะๆ
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ให้ผู้ชมสะเทือนใจไปกับความเจ็บปวด หรือดำดิ่งไปกับความรักของตัวละคร แต่มันคือเรื่องราวชีวิตไว้วัยรุ่นที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างซื่อตรง
KIMI NO SUIZO WO TABETAI ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ 23 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit