ชาวเจียงเหมินอยู่ในกลุ่มชาวจีนยุคแรก ๆ ที่เดินทางไปเสี่ยงโชค ณ ดินแดนตะวันตก ขณะที่หลายชีวิตตั้งรกรากและสร้างชุมชนชาวจีนขึ้นในประเทศที่ตนไปอาศัยอยู่ อีกหลายชีวิตก็เลือกหวนคืนสู่บ้านเกิดอย่าง "ไคผิง" เมืองระดับอำเภอในเจียงเหมิน
หลังจากเก็บหอมรอมริบในต่างประเทศจนเริ่มมีฐานะ ชาวไคผิงจำนวนมากเลือกเดินทางกลับสู่บ้านเกิด และนำเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองมาสร้าง "เตียวโหลว" (Diaolou) ที่พักอาศัยซึ่งมีลักษณะโดดเด่นคล้ายหอคอยอันสูงตระหง่าน โดยเตียวโหลวของชาวไคผิงนี้เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นแบบเฉพาะของจีนที่ผสานอิทธิพลแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่อปี2550 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน ""เตียวโหลและหมู่บ้านแห่งไคผิง"" เป็นมรดกโลก
ดังคำกล่าวที่ว่า "ใบไม้ร่วงคืนสู่ราก" ลีกุมกี่ กรุ๊ป (LEE KUM KEE Group) บริษัทผู้ผลิตซอสและเครื่องปรุงรสแบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกงไม่เคยลืมว่า เขตซินหุ้ยของเมืองเจียงเหมินคือรากเหง้าที่แท้จริงของวงศ์ตระกูล หลังจากจากบ้านจากเมืองไปดำเนินธุรกิจนอกเขตซินหุ้ยอยู่นานหลายปี ลีกุมกี่ได้ตัดสินใจหวนคืนสู่อ้อมกอดแห่งบ้านเกิด และจัดตั้งโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในเขตซินหุ้ยขึ้นเมื่อปี 2538
ปัจจุบัน ลีกุมกี่มีพนักงานประมาณ 2,400 คน และผลิตซอสสูตรต่าง ๆ ออกจำหน่ายกว่า 200 สูตร โดยซอสหอยนางรมนั้นมีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งมิเพียงแค่สร้างมูลค่าให้กับบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชุมชนท้องถิ่นด้วย
เจียงเหมินยกย่องอดีต รื่นรมย์กับปัจจุบัน และสร้างสรรค์อนาคต ชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลขนาดใหญ่แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมืองเจียงเหมินมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการคืนกำไรสู่สังคมทางตรง หรือการลงทุนทางอ้อม ซึ่งข้อมูลเชิงสถิติชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันประชากรเกือบ 4 ล้านคนซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเมืองเจียงเหมินนั้นอาศัยอยู่ใน 107 ประเทศและภูมิภาค
เจียงเหมินตั้งอยู่บนทำเลชั้นยอดทางฝั่งตะวันตกของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล อีกทั้งพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองยังประจันหน้ากับทะเลจีนใต้ด้วย ขณะเดียวกันการที่เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าได้ถูกรวมเข้าไว้อย่างเป็นทางการในวาระยุทธศาสตร์แห่งชาตินั้น ยังเป็นการวางรากฐานอันมั่นคงให้กับเจียงเหมินในการขับเคลื่อนเมืองให้ก้าวหน้าต่อไป ในฐานะสมาชิกที่สำคัญของเขตอ่าวดังกล่าว
ทั้งนี้ เมืองเจียงเหมินได้รังสรรค์ "Qiaomengyuan" (Dream Incubator for Overseas Chinese) หรือพื้นที่บ่มเพาะฝันสำหรับชาวจีนโพ้นทะเลขึ้น รวมถึงก่อตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยปัจจุบันสามารถดึงดูดโครงการราว 250 โครงการทั้งที่ได้ลงนามแล้วหรือวางแผนที่จะเข้าร่วมในพื้นที่เพาะฝันแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรเงินลงทุนมูลค่า 4 พันล้านหยวนเพื่อสร้าง Jiangmen Station ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ที่สุดในมณฑลกวางตุ้งฝั่งตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น ทางเมืองเจียงเหมินยังได้วางแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ Greater Guanghai Bay Economic Zone ซึ่งคาดว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นเขตเศรษฐกิจระดับมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของกวางตุ้งเลยทีเดียว
โครงการพัฒนาที่หยิบยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เจียงเหมินจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนอรรถประโยชน์ของเมืองอย่างเต็มที่ พร้อมยกระดับบทบาทในฐานะที่เป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษแห่งชาวจีนโพ้นทะเล และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเจริญต่าง ๆ กับประชาคมโลกต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit