นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากการลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังออมเงินระยะยาวและหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในช่วงปลายปีนี้จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ที่ปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกันภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจและการส่งออกฟื้นตัว ส่งผลให้ดัชนีปรับขึ้นทะลุระดับ 1,700 จุดในช่วงที่ผ่านมา และประเมินว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุดภายในช่วงสิ้นปี 2561
ปัจจัยเกื้อหนุนดังกล่าว จึงเป็นโอกาสของ แอล เอช ฟันด์ ในการเปิดตัวกองทุน RMF และ LTF โดยในวันที่ 8-22 พฤศจิกายนนี้ แอล เอช ฟันด์ จะเปิดเสนอขาย IPO หน่วยลงทุนของกองทุนเปิด แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ หุ้นระยะยาว หรือ LH Strategy Long Term Equity Fund ชนิดสะสมมูลค่า (LHSTGLTF-A) และชนิดจ่ายเงินปันผล (LHSTGLTF-D) โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ เช่น หุ้นที่มีความเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างต่ำ (Low Beta) เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือมีความเสี่ยงจากการลงทุนค่อนข้างต่ำ (Low VaR) และ/หรือหุ้นที่มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูงและ/หรือมีอัตราการเติบโตของอัตราจ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ยังได้เปิดเสนอขาย IPO หน่วยลงทุนของกองทุนเปิด เสนอขายกองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อินคัม เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ LH Global Income Retirement Mutual Fund (LHGINCOMERMF) อีก 1 กองพร้อมกัน โดยกำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณ โดยเป็นกองทุนรวมประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศและ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศทั่วโลก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะลงทุนอย่างน้อย 2 กองทุน ในสัดส่วนกองทุนละไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เช่น กองทุนตราสารหนี้ และ/หรือกองทุนตราสารทุน และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REITs และ/หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0-100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ตราสารทางการเงินอื่นๆ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกองทุน LHGINCOMERMF ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนในกองทุนต่างประเทศ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน T.Rowe Funds SICAV Diversified Income Bond Fund ที่จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในสัดส่วนประมาณ 60% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนดังกล่าวได้กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทุกประเภททั่วโลก ขณะเดียวกันจะเข้าลงทุนในกองทุนGAM Star Credit Opportunities (USD) ที่จดทะเบียนในประเทศไอร์แลนด์ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade หรือตราสารที่ผู้ออกมีคุณภาพสูงรวมถึงมีการลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และส่วนที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 10 จะลงทุนในเงินฝาก
กรรมการผู้จัดการ แอล เอช ฟันด์ ยังกล่าวต่อว่า "เรามองว่าช่วงปลายปีเป็นจังหวะที่ดีของการเปิดตัวกองทุน RMF และ LTF ในการเพิ่มทางเลือกการลงทุนเพื่อออมเงินและลดหย่อนภาษี จากปัจจุบันที่แอล เอช ฟันด์ มีกองทุน RMF และ LTF อยู่แล้ว 6 กองทุนที่มีความหลากหลายนโยบายการลงทุน ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจโลกและบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัว จึงเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน" นายมนรัฐ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit