ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เลือกตั๊กแตน - อิสร์ ศิลปินแกรมมี่ เป็นพรีเซ็นเตอร์วันเอดส์โลก ประจำปี 2560

22 Nov 2017
ตั๊กแตน – ชลดา ทองจุลกลาง และ อิสร์-อิสรพงศ์ ดอกยอ ศิลปินแกรมมี่ ได้รับเลือกจากศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์วันเอดส์โลก ประจำปี 2560 เพื่อรณรงค์เชิญชวนคนไทยร่วมกันป้องกันภัยจากโรคเอดส์ภายใต้แนวคิด"หยุดรังเกียจ ยุติเอดส์" โดยสโลแกนในปีนี้ คือ "พริ้นเซส เพร็พ ช่วยได้ไม่ติดเอดส์" (Princess PrEP ช่วยได้ ไม่ติดเอดส์) และในฐานะพรีเซ็นเตอร์ แพรวและอิสร์ได้ถ่ายทำสื่อประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อใช้เป็นสื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงการป้องกันโรคเอดส์ด้วยการตรวจเอดส์เป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ รวมถึงรณรงค์ให้คนในสังคมเปิดใจยอมรับและให้โอกาสผู้ติดเชื้อเอดส์สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ตามที่องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันเอดส์โลก สภากาชาดไทยจึงได้
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เลือกตั๊กแตน - อิสร์ ศิลปินแกรมมี่ เป็นพรีเซ็นเตอร์วันเอดส์โลก ประจำปี 2560

จัดงาน "เทียนส่องใจ" เนื่องในวันเอดส์โลกเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2560 โดยในวันที่ 1ธันวาคมนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธาน พร้อมประทานรางวัลแก่องค์กรและบุคคลต่างๆ ณ ศูนย์การค้าจามจุรีสแควร์ โดยมีศิลปินแกรมมี่เข้าร่วมรับประทานเข็มที่ระลึก ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ด้วยตั๊กแตน – ชลดา ทองจุลกลาง เปิดเผยว่า

"ในฐานะพรีเซ็นเตอร์รณรงค์วันเอดส์โลกในปีนี้ แตนอยากให้ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันโรคเอดส์ค่ะ เพราะเรื่องนี้อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด ซึ่งการตรวจหาการติดเชื้อเอดส์มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น โดยเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการป้องกันและการดูแลรักษา ดังนั้นการตรวจเอดส์จึงถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แตนก็ขอเชิญชวนให้ผู้ที่มีความเสี่ยงทุกคนไปตรวจเอดส์กันเป็นประจำทุกปี เพราะโรคเอดส์ไม่ได้น่ากลัวหรือน่ารังเกียจอย่างที่หลายๆคนเข้าใจค่ะ"

อิสร์ - อิสรพงศ์ ดอกยอ เปิดเผยว่า

"ในสังคมยังมีความเชื่อที่ผิดหลายอย่างเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และส่งผลให้นำไปสู่การปฏิบัติหรือการป้องกันอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งการป้องกันตัวเองถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ถ้าใครที่มีความเสี่ยงก็ขอแนะนำให้รีบไปรับการตรวจ หากพบว่าติดเชื้อจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาและการดูแลตัวเองที่ถูกวิธีครับ ยิ่งปัจจุบันมีตัวยา "เพร็พ" (PrEP) ที่สามารถต้านไวรัสได้ ก็ยิ่งเป็นทางเลือกในการป้องกันการติดโรคสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้มากขึ้นด้วยครับ"