ฟิตบิทได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์ในโครงการวิจัยการแพทย์แม่นยำ ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยสคริปปส์

20 Nov 2017
ฟิตบิท (NYSE: FIT) ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิลชั้นนำระดับโลก ประกาศถึงการได้รับคัดเลือกให้เป็นอุปกรณ์แวร์เอเบิลชิ้นแรก เพื่อใช้ในโครงการวิจัยระดับชาติ ออลออฟอัส (All of Us) ที่จัดตั้งโดยทำเนียบขาวใน พ.ศ. 2558 และได้รับเงินทุนอุดหนุนเพิ่มเติมจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Institute of Health: NIH) ให้แก่สถาบันวิจัยสคริปปส์ (The Scripps Research Institute: TSRI)
ฟิตบิทได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์ในโครงการวิจัยการแพทย์แม่นยำ ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยสคริปปส์

โครงการวิจัย All of Us ตั้งเป้าระดมผู้ร่วมโครงการให้ได้ 1 ล้านรายหรือมากกว่านั้น เพื่อเร่งให้เกิดผลงานวิจัยที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันและรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นหลากหลายตามไลฟ์สไตล์แต่ละคน ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยจะใช้ประโยชน์ข้อมูลที่รวบรวม นำมาศึกษาว่าความแตกต่างด้านไลฟ์สไตล์ สิ่งแวดล้อมและลักษณะทางชีวภาพนั้น ส่งผลต่อสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างไร

ส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย All of Us คือกิจกรรมของสถาบัน STSI (Scripps Translational Science Institute) ด้านเวชศาสตร์ปริวรรต ซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้เข้าร่วมโครงการ มีภารกิจในการหาผู้สนใจและสร้างการมีส่วนร่วมจากประชากรที่หลากหลายทั่วประเทศ โดยสถาบันจะมอบฟิตบิทรุ่นชาร์จ 2 (Charge 2) และอัลธ่าเอชอาร์ (Alta HR) รวม 10,000 เครื่องให้แก่อาสาสมัครกลุ่มตัวอย่างในโครงการ All of Us เป็นเวลา 1 ปี เมื่อสิ้นสุดระยะทดลอง นักวิจัยจึงจะให้คำแนะนำว่าจะนำอุปกรณ์ไปใช้กับโครงการ All of Us ในวงกว้างได้อย่างไร

นอกจากนี้ โครงการวิจัยจะทำให้ได้ชุดข้อมูลที่เปิดโอกาสให้ศึกษาต่อยอดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดด้านสุขภาพ อาทิ กิจกรรมการเคลื่อนไหวของร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ และการนอนหลับ กับผลวิจัยด้านสุขภาพสำคัญ ๆ ที่ค้นพบจากโครงการ All of Us ส่วนหนึ่ง

""ด้วยกระแสโลกที่เปลี่ยนไปสู่ยุคการแพทย์แม่นยำ (precision medicine) ข้อมูลจากอุปกรณ์แวร์เอเบิลจึงมีศักยภาพในการให้ข้อมูลการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับแต่ละบุคคลมาก"" นาย อดัม เพลเลกรินี ผู้จัดการทั่วไปของ ฟิตบิท เฮลท์ โซลูชั่นส์ กล่าวและเสริมว่า ""การได้เข้าร่วมโครงการครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะทำให้เห็นว่าข้อมูลฟิตบิทมีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้าใจให้ดีขึ้น เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคน (individualization) ที่มีส่วนช่วยป้องกันและรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ""

คุณสมบัติของอุปกรณ์ฟิตบิท มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักวิจัย

หลังจากที่ได้ประเมินอุปกรณ์แวร์เอเบิลสำหรับผู้บริโภคในตลาด ทีมงานสถาบัน STSI ได้ตัดสินใจเลือกฟิตบิท โดยพิจารณาจากงานศึกษาวิจัยเปรียบเทียบโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าอุปกรณ์ฟิตบิทเป็นแวร์เอเบิลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการวิจัยด้านสุขภาพทั่วโลก

""อุปกรณ์ฟิตบิทที่คัดเลือกมาใช้ประกอบการศึกษา จะติดตามทั้งกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย การหลับ และตัวแปรเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ"" นาย อีริค โทพอล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของสถาบัน STSI กล่าว ""ด้วยความนิยมของอุปกรณ์ฟิตบิทในหมู่ชาวอเมริกันหลายล้านคน และคุณสมสมบัติที่ใช้งานง่าย รวมทั้งแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานหลายวัน และประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนรุ่นต่าง ๆ ทำให้ฟิตบิทเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการวิจัยนำร่องนี้""

งานวิเคราะห์ชิ้นหนึ่ง1 ที่ตีพิมพ์ในวารสารสหภาพสมาคมอเมริกันเพื่อการทดลองทางชีววิทยา (Federation of American Societies for Experimental Biology: FASEB) ค้นพบว่าอุปกรณ์ฟิตบิทเป็นตัวแทรคเกอร์ที่มีการใช้งานแพร่หลายที่สุดในงานวิจัยด้านชีวการแพทย์ มีทั้งงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว (ร้อยละ 89) การทดลองทางคลินิก (ร้อยละ 83) งานวิจัยที่ได้รับทุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (ร้อยละ 95) ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วมากกว่า 470 ชิ้น2 ที่ใช้อุปกรณ์ฟิตบิท นับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าอุปกรณ์แวร์เอเบิลสำหรับผู้บริโภคแบรนด์อื่น ๆ3 ซึ่งได้รวมการใช้แวร์เอเบิลในงานวิจัยด้านต่าง ๆ อาทิ เบาหวาน สุขภาวะของระบบหัวใจและหลอดเลือด เนื้องอกวิทยา สุขภาพจิต และการฟื้นฟูหลังศัลยกรรม

""สิ่งที่นักวิจัยได้รับทราบ มาจากการบันทึกข้อมูลสุขภาพชั่วขณะในสภาพแวดล้อมที่จัดขึ้น หรือได้มาจากความจำจากการรำลึกของบุคคล โครงการวิจัยนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงกิจกรรมที่ครอบคลุม ข้อมูลการเต้นของหัวใจและการนอนหลับ อาจช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแบบต่าง ๆ และผลพวงด้านสุขภาพ ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งประเด็นสำคัญที่ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย"" นายแพทย์สตีเวน สไตน์ฮูบล์ แพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด และผู้อำนวยการด้านการแพทย์ดิจิทัล แห่งสถาบัน STSI กล่าวทิ้งท้าย

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit