ไซแมนเทค (Symantec) ผู้นำระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เปิดตัวโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยที่มีฟีเจอร์พร้อมสรรพและก้าวล้ำที่สุดสำหรับเครื่องลูกข่าย โดยผสานรวมเทคโนโลยี Deception, Mobile Threat Defense, Endpoint Detection and Response (EDR), Hardening และการปกป้องขั้นสูงผ่านเทคโนโลยี่การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Machine Learning) ที่ทันสมัย โซลูชั่นดังกล่าวพัฒนาต่อยอดจากแพลตฟอร์มSymantec Endpoint Protection (SEP) ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน โดยเป็นโซลูชั่นแรกที่นำเสนอความสามารถทั้งหมดนี้ไว้ในเอเจนต์หนึ่งเดียว ป้องกันปัญหาที่ท้าทายในยุคคลาวด์ (Cloud Generation) ด้วยการเพิ่มความสะดวก ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มศักยภาพด้านความปลอดภัยที่มากขึ้น
ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจหันมาใช้เทคโนโลยี่คลาวด์คอมพิวติ้งและโมบายล์กันมากขึ้น แต่ต้องประสบปัญหาในการปกป้องพนักงานที่ใช้งานอุปกรณ์หลากหลายประเภท รวมถึงการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นตาม การป้องกันที่มีประสิทธิภาพของไซแมน- เทคต่อการโจมตีที่เกิดขึ้น เช่น มัลแวร์WannaCry และ Petya ตอกย้ำให้เห็นความต้องการแพลตฟอร์มที่นำเสนอโซลูชั่นทางด้านความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ และสามารถครอบคลุมได้ทุกอุปกรณ์ ทุกเครือข่าย และทุกแอพพลิเคชั่น เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความท้าทายเหล่านี้กลายเป็นเรื่องยากขึ้น เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ รวมไปถึงความจำเป็นที่ต้องใช้หลากหลายโซลูชั่นในการป้องกันปัญหาทางด้านความปลอดภัย
ไซแมนเทคนำเสนอเทคโนโลยี่ปกป้องอุปกรณ์เครื่องลูกข่ายแบบครบวงจรบนเอเจนต์เดียว ช่วยให้ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศและทีมงานฝ่ายไอทีสามารถตรวจสอบ จัดการ และควบคุมภัยคุกคาม ควบคู่ไปกับการลดความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินงาน นอกจากนี้การออกแบบซอฟแวร์ให้สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับภายนอก จะสามารถผนวกรวมโซลูชั่นจากพันธมิตรเข้ากับ Symantec Endpoint Protection (SEP) อย่างเป็นหนึ่งเดียว
""โซลูชั่นสำหรับป้องกันเครื่องลูกข่ายใหม่ของเราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยี่ระดับชั้นนำอย่างครบถ้วนที่รวมอยู่ในเอเจนต์เดียว ช่วยให้สะดวก ลดค่าใช้จ่าย และสามารถต่อสู้กับ ภัยคุกคามขั้นสูง มัลแวร์ และมัลแวร์เรียกค่าไถ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"" ไมค์ เฟย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไซแมนเทค กล่าว ""ที่สำคัญก็คือ เทคโนโลยี่เหล่านี้นอกจากจะผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนแล้ว ยังมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์แบบสแตนด์อะโลนที่วางจำหน่ายในตลาด เราเรียกโซลูชั่นนี้ว่า Endpoint Security สำหรับ Cloud Generation และเรามีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนี้ให้แก่ลูกค้าของเรา โดยนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ในการปกป้องเครื่องลูกข่ายของเรา""
Endpoint Security สำหรับ Cloud Generation นำเสนอแพลตฟอร์มที่ครบวงจรเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ โดยประกอบไปด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี่สำหรับการปกป้องเครื่องลูกข่ายของไซแมนเทค Symantec Endpoint Protection ที่ล้ำหน้า โดยได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังต่อไปนี้ให้ล้ำหน้าขึ้น:
· เทคโนโลยี Deception ที่สามารถขยายได้ – ไซแมนเทคตอบโต้ผู้โจมตีด้วยการเพิ่มเติมเทคโนโลยี่ Deception ลงในโซลูชั่นสำหรับปกป้องเครื่องลูกข่าย โดยเทคโนโลยี Deception นี้จะล่อหลอกให้ผู้โจมตีเข้าใจว่าตนเองเจาะเข้ามาอยู่ในระบบขององค์กร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้โจมตีถูกหลอกให้อยู่ในระบบปลอมที่ประกอบด้วยทรัพยากรและข้อมูลที่ปลอมแปลงขึ้นมา ทำให้ผู้โจมตีไม่สามารถทำอันตรายกับระบบและเครื่องลูกข่ายจริงได้ แต่กับทำให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสามารถรู้ถึงรายระเอียดและกระบวนการในการโจมตีและสามารถหาวิธีจัดการและป้องกันการโจมตีดังกล่าวได้ต่อไป ไซแมนเทคเป็นบริษัทแรกที่นำเทคนิคนี้มาใช้กับโซลูชั่นสำหรับปกป้องเครื่องลูกข่าย โดยรวมอยู่ใน SEP 14.1 ส่งผลให้เทคโนโลยี่ Deceptionสามารถขยายไปยังอุปกรณ์ 175 ล้านเครื่องทั่วโลกที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ของไซแมนเทค
· Mobile Threat Defense ผ่านทาง SEP Mobile – ไซแมนเทคประกาศวางจำหน่าย SEP Mobile ทั่วโลก เพียง 90 วันหลังจากที่ไซแมนเทคเข้าซิ้อกิจการของ Skycure นำเสนอการปกป้องที่เหนือชั้นสำหรับอุปกรณ์มือถือให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรทางการค้า SEP Mobile ป้องกันภัยคุกคามบนเครื่องโมบายล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถขยายความคุ้มครองจากเพียงแค่อุปกรณ์ขององค์กรเอง ไปยังอุปกรณ์ส่วนตัวของพนักงาน (BYOD) ได้อีกด้วย โดย SEP Mobile สามารถรองรับระบบปฏิบัติการทั้งแบบ iOS และ Android
· Endpoint Detection and Response (EDR) – ไซแมนเทคเปิดตัว Advanced Threat Protection 3.0 พร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญของฟีเจอร์EDR บน SEP 14 นอกจากนี้ไซแมนเทคยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูขั่นสำหรับเครื่องลูกข่ายด้วย EDR Cloud ซึ่งเป็นบริการแบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งานได้ทันที EDR Cloud ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูขั้นทางด้านความปลอดภัยให้กับเครื่องลูกข่าย ด้วยการเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบ ที่นำทักษะและแนวทางปฏิบัติของนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญ มาเป็นแนวทางเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายให้แก่องค์กร
· การปกป้องแบบไม่ใช้ฐานข้อมูลไวรัสและมัลแวร์ – SEP 14.1 ใช้เทคนิค Machine Learning ที่ก้าวล้ำ และการวิเคราะห์พฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการป้องกันแบบเข้มข้น พร้อมกับสามารถปรับแต่งระดับการป้องกันให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของลูกค้าได้ โดย SEP 14สามารถป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ WannaCry ได้มากกว่า 1 พันล้านครั้งให้กับเครื่องลูกข่ายที่ใช้ SEP 14 ทั่วโลก โดยอาศัยเทคโนโลยีดังกล่าว
· Symantec Endpoint Protection with Hardening – SEP Hardening ป้องกันช่องโหว่ต่างๆ ของเครื่องลูกข่าย รวมไปถึงการโจมตีรูปแบบใหม่ๆ และลดความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีด้วยการสร้างเกราะป้องกัน เพื่อแยกกิจกรรมที่น่าสงสัยและกิจกรรมที่เป็นอันตรายออกจากโปรแกรมที่สำคัญ
ข้อมูลเพิ่มเติม:
คำกล่าวของนักวิเคราะห์: ""การลดความซับซ้อนของการป้องกันทางด้านความปลอดภัยมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อองค์กรต่างๆ โซลูชั่นแบบหลายเอเจนต์อาจก่อให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อน เพิ่มค่าใช้จ่าย และยากแก่การจัดการ ทั้งยังอาจก่อให้เกิดช่องโหว่ในระบบ ไซแมนเทคผสานรวมเทคโนโลยี่ที่พร้อมสรรพสำหรับการปกป้องเครื่องลูกข่ายไว้ในเอเจนต์เดียว ช่วยให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศและฝ่ายไอทีสามารถติดตาม จัดการ และดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีผ่านระบบบริหารจัดการเดียว"" ฌอน ไพค์ รองประธานโครงการสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ของ IDC กล่าว
คำกล่าวของลูกค้า:
ผลิตภัณฑ์ที่รวมอยู่ใน Endpoint for the Cloud Generation
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit